นายกฯ ชื่นชม ศปช.บูรณาการแก้ปัญหาเยียวยาผู้ประสบภัยได้รวดเร็ว

กรุงเทพฯ 14 ต.ค. – นายกฯ ชื่นชม ศปช. เป็นโมเดลบูรณาการติดตามเร่งรัดแก้ไขปัญหา ฟื้นฟูพื้นที่และเยียวยาผู้ประสบภัยได้รวดเร็ว มีเอกภาพ คาดกู้คืนพื้นที่น้ำท่วมทันสิ้นเดือนนี้ ก่อนเดินหน้ากระตุ้นท่องเที่ยวเหนือรับไฮซีซั่น ดันเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการทำงานของ ศปช. ในการแก้ปัญหาให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ช่วงเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในพื้นที่และส่วนกลาง บูรณาการร่วมแก้ปัญหา โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศปช. มอบหมายให้คณะทำงาน ศปช. ติดตามสถานการณ์น้ำและหาแนวทางแก้ไขให้ประชาชนทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ทั้งการแจ้งเตือน ฟื้นฟู ช่วยเหลือเยียวยา ทั้งการดำเนินชีวิตและเยียวยาสภาพจิตใจ ขณะเดียวกัน ยังมี ศปช.ส่วนหน้า ดูแลและประสานหน้างาน หารือส่วนราชการ ทำให้การทำงานในพื้นที่มีความคืบหน้าทุกวันเวลา นำโดย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ในฐานะประธาน และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะที่ปรึกษา ที่ปักหลักเร่งรัดการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงานให้เต็มศักยภาพและรวดเร็ว จนถึงขณะนี้เป้าหมายเพื่อให้ประชาชนกลับเข้าบ้านดำเนินชีวิตได้ตามปกติใกล้ความจริงแล้ว

“ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา หน่วยงานต่างๆ ระดมสรรพกำลังช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างเต็มที่ ทั้งที่เชียงราย เชียงใหม่ จนถึงขณะนี้เส้นทางสัญจรทางถนน-รถไฟที่เคยถูกน้ำท่วม ใช้ได้ตามปกติแล้ว ส่วนการดำเนินชีวิตของประชาชนภาพรวม เริ่มทยอยกลับเข้าบ้าน สามารถใช้น้ำประปา-ไฟฟ้าได้แล้ว บ้านประชาชนที่เสียหายทั้งหลัง ก็ได้สร้างบ้านน็อกดาวน์ให้โดยกรมราชทัณฑ์ เหลือที่ อ.แม่สาย ที่ต้องใช้เวลากู้คืนพื้นที่ โดยเฉพาะการดูดดินโคลนในท่อระบายน้ำและอาคารบ้านเรือนที่ยังมีดินโคลนอยู่ ขณะเดียวกัน ต้องเร่งกำจัดขยะที่ตกค้างด้วย คาดว่าภาพรวมจะฟื้นฟูแล้วเสร็จ ภายในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ ตามแผน Quick Win และบางจุดจะเป็นไปตามกรอบที่จะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ส่วนที่ จ.ลำพูน บางแห่งที่ยังมีน้ำท่วมขัง ก็ได้เพิ่มเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออก แนวโน้มระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง และ ศปช. ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์ฝนภาคใต้อย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที” นายจิรายุ กล่าว


นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลได้ปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อัตราเดียวครัวเรือนละ 9,000 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุทกภัย และมีค่าช่วยล้างดินโคลนบ้านน้ำท่วม หลังละ 10,000 บาท ทั้งนี้ ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 17 กันยายน และวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา มีประชาชนยื่นคำร้องในระบบ 57 จังหวัด 200,330 ครัวเรือน ปภ.ส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินแล้ว 7 ครั้ง ในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และสุโขทัย ล่าสุดธนาคารออมสินโอนเงินสำเร็จผ่าน promptpay แล้ว 6 ครั้ง ให้ 17,352 ครัวเรือน จำนวนเงินกว่า 86,888,000 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ต.ค.67)

“การจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเป็นอีกเรื่องสำคัญ ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการในทุกขั้นตอน เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับเงินช่วยเหลือเร็วที่สุด หากประชาชนติดขัดปัญหาในขั้นตอนใด สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เทศบาล / อปท.ในพื้นที่ เน้นย้ำให้ตรวจสอบข้อมูลครัวเรือนว่าอยู่ในการสำรวจของเทศบาลหรือไม่ เพื่อป้องกันรายชื่อที่่อาจตกหล่น” นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยให้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว รัฐบาลก็จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจทันที โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี รับทราบมาตรการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” เป็นโครงการนำร่อง กระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ หลังจากผู้ประกอบการเริ่มทยอยฟื้นฟูกิจการหลังน้ำท่วมใหญ่ คาดดีเดย์วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ยังเตรียมปรับเงื่อนไขมาตรการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบตรงจุดมากที่สุด หากเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้ประชาชน ก็จะพิจารณาขยายหรือต่อยอดโครงการต่อไป


ล่าสุด จ.เชียงใหม่ ขานรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงไฮซีซั่น นายจิรายุ กล่าวว่า วันนี้ (14 ต.ค.67) ทุกภาคส่วนของ จ.เชียงใหม่ ร่วมปฏิบัติการตามแผนฟื้นฟูทำความสะอาดบ้านเมืองทั่วทุกพื้นที่ โดยนายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ปล่อยขบวนคาราวานรถน้ำ 200 คัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จาก อบจ.เชียงใหม่ อปท. ตำรวจ ทหารบก และภาคีเครือข่าย รวมกว่า 700 คน ร่วมกันเก็บขยะที่ตกค้าง ทำความสะอาด ฉีดล้างดินโคลนตามท้องถนนสายหลัก ตรอก ซอยต่างๆ ป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจาย ในพื้นที่ถนนเจริญเมือง ตั้งแต่แยกหนองประทีป จนถึงสะพานนวรัฐ ให้แล้วเสร็จ ก่อนดำเนินการในเส้นทางอื่นต่อไป เพื่อเร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สะอาด สวยงาม พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นปลายปีนี้.-315-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]