นายกฯ ชื่นชม ศปช.บูรณาการแก้ปัญหาเยียวยาผู้ประสบภัยได้รวดเร็ว

กรุงเทพฯ 14 ต.ค. – นายกฯ ชื่นชม ศปช. เป็นโมเดลบูรณาการติดตามเร่งรัดแก้ไขปัญหา ฟื้นฟูพื้นที่และเยียวยาผู้ประสบภัยได้รวดเร็ว มีเอกภาพ คาดกู้คืนพื้นที่น้ำท่วมทันสิ้นเดือนนี้ ก่อนเดินหน้ากระตุ้นท่องเที่ยวเหนือรับไฮซีซั่น ดันเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการทำงานของ ศปช. ในการแก้ปัญหาให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ช่วงเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในพื้นที่และส่วนกลาง บูรณาการร่วมแก้ปัญหา โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศปช. มอบหมายให้คณะทำงาน ศปช. ติดตามสถานการณ์น้ำและหาแนวทางแก้ไขให้ประชาชนทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ทั้งการแจ้งเตือน ฟื้นฟู ช่วยเหลือเยียวยา ทั้งการดำเนินชีวิตและเยียวยาสภาพจิตใจ ขณะเดียวกัน ยังมี ศปช.ส่วนหน้า ดูแลและประสานหน้างาน หารือส่วนราชการ ทำให้การทำงานในพื้นที่มีความคืบหน้าทุกวันเวลา นำโดย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ในฐานะประธาน และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะที่ปรึกษา ที่ปักหลักเร่งรัดการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงานให้เต็มศักยภาพและรวดเร็ว จนถึงขณะนี้เป้าหมายเพื่อให้ประชาชนกลับเข้าบ้านดำเนินชีวิตได้ตามปกติใกล้ความจริงแล้ว

“ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา หน่วยงานต่างๆ ระดมสรรพกำลังช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างเต็มที่ ทั้งที่เชียงราย เชียงใหม่ จนถึงขณะนี้เส้นทางสัญจรทางถนน-รถไฟที่เคยถูกน้ำท่วม ใช้ได้ตามปกติแล้ว ส่วนการดำเนินชีวิตของประชาชนภาพรวม เริ่มทยอยกลับเข้าบ้าน สามารถใช้น้ำประปา-ไฟฟ้าได้แล้ว บ้านประชาชนที่เสียหายทั้งหลัง ก็ได้สร้างบ้านน็อกดาวน์ให้โดยกรมราชทัณฑ์ เหลือที่ อ.แม่สาย ที่ต้องใช้เวลากู้คืนพื้นที่ โดยเฉพาะการดูดดินโคลนในท่อระบายน้ำและอาคารบ้านเรือนที่ยังมีดินโคลนอยู่ ขณะเดียวกัน ต้องเร่งกำจัดขยะที่ตกค้างด้วย คาดว่าภาพรวมจะฟื้นฟูแล้วเสร็จ ภายในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ ตามแผน Quick Win และบางจุดจะเป็นไปตามกรอบที่จะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ส่วนที่ จ.ลำพูน บางแห่งที่ยังมีน้ำท่วมขัง ก็ได้เพิ่มเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออก แนวโน้มระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง และ ศปช. ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์ฝนภาคใต้อย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที” นายจิรายุ กล่าว


นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลได้ปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อัตราเดียวครัวเรือนละ 9,000 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุทกภัย และมีค่าช่วยล้างดินโคลนบ้านน้ำท่วม หลังละ 10,000 บาท ทั้งนี้ ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 17 กันยายน และวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา มีประชาชนยื่นคำร้องในระบบ 57 จังหวัด 200,330 ครัวเรือน ปภ.ส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินแล้ว 7 ครั้ง ในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และสุโขทัย ล่าสุดธนาคารออมสินโอนเงินสำเร็จผ่าน promptpay แล้ว 6 ครั้ง ให้ 17,352 ครัวเรือน จำนวนเงินกว่า 86,888,000 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ต.ค.67)

“การจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเป็นอีกเรื่องสำคัญ ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการในทุกขั้นตอน เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับเงินช่วยเหลือเร็วที่สุด หากประชาชนติดขัดปัญหาในขั้นตอนใด สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เทศบาล / อปท.ในพื้นที่ เน้นย้ำให้ตรวจสอบข้อมูลครัวเรือนว่าอยู่ในการสำรวจของเทศบาลหรือไม่ เพื่อป้องกันรายชื่อที่่อาจตกหล่น” นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยให้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว รัฐบาลก็จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจทันที โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี รับทราบมาตรการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” เป็นโครงการนำร่อง กระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ หลังจากผู้ประกอบการเริ่มทยอยฟื้นฟูกิจการหลังน้ำท่วมใหญ่ คาดดีเดย์วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ยังเตรียมปรับเงื่อนไขมาตรการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบตรงจุดมากที่สุด หากเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้ประชาชน ก็จะพิจารณาขยายหรือต่อยอดโครงการต่อไป


ล่าสุด จ.เชียงใหม่ ขานรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงไฮซีซั่น นายจิรายุ กล่าวว่า วันนี้ (14 ต.ค.67) ทุกภาคส่วนของ จ.เชียงใหม่ ร่วมปฏิบัติการตามแผนฟื้นฟูทำความสะอาดบ้านเมืองทั่วทุกพื้นที่ โดยนายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ปล่อยขบวนคาราวานรถน้ำ 200 คัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จาก อบจ.เชียงใหม่ อปท. ตำรวจ ทหารบก และภาคีเครือข่าย รวมกว่า 700 คน ร่วมกันเก็บขยะที่ตกค้าง ทำความสะอาด ฉีดล้างดินโคลนตามท้องถนนสายหลัก ตรอก ซอยต่างๆ ป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจาย ในพื้นที่ถนนเจริญเมือง ตั้งแต่แยกหนองประทีป จนถึงสะพานนวรัฐ ให้แล้วเสร็จ ก่อนดำเนินการในเส้นทางอื่นต่อไป เพื่อเร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สะอาด สวยงาม พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นปลายปีนี้.-315-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]