ไตรมาสแรกปี 65 ยอดใช้พลังงานเชิงพาณิชย์พุ่งหลังโควิดเริ่มลดลง

กรุงเทพฯ 2 มิ.ย.-สนพ.เผยยอดการใช้พลังงานเขิงพาณิชย์ไทยช่วงไตรมาสแรกปี 65 เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2 หลังปัญหาติดเชื้อโควิดในประเทศเบาลง เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว แต่จับตาผลสงครามรัสเซีย-ยูเครนมีผลกระทบทุกด้านทั่วโลก พร้อมนัดหารือทบทวนราคาค่าการกลั่นน้ำมันดีเซลและเบนซินใหม่ ชี้แม้ราคาพลังงานโลกเพิ่ม สนพ.เตรียมแผนกระตุ้นให้คนไทยหันมาใช้รถยนต์ EV ให้มากขึ้น


นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สถานการณ์พลังงานไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 65 การใช้พลังงานเชิงพาณิชย์ขั้นสุดท้าย เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2 เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวรวมถึงการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ส่งผลให้การใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะการใช้ลิกไนต์ในภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ความต้องการใช้พลังงานเชิงพาณิชย์ขั้นต้นปรับตัวลดลงร้อยละ 0.8 จากการใช้ LNG ที่ลดลงในภาคการผลิตไฟฟ้า

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ครั้งที่แล้ว เมื่อช่วงเดือน ธ.ค.64 ได้มีการปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจลงเนื่องจากภาวการณ์ขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญลดลงและราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเขีย – ยูเครน และมาตรการคว่ำบาตรที่มีแนวโน้มยืดเยื้อการคาดการณ์ความต้องการพลังงานขั้นต้น ปี 65 อยู่ที่ระดับ 2.034 ล้านบาร์เรลต่อวันเทียบเท่าน้ำมันดิบหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับปี 64 ตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศและการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับนโยบายเปิดประเทศของไทยและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19


อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้นเกือบทุกประเภท ยกว้นก๊าซธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากราคาตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างรัสเขีย – ยูเครน โดยการใช้น้ำมัน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.9 จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาดส่งผลให้ประชาชนเปลี่ยนพฤติกรรมเข้าสู่ภาวะปกติ ในขณะที่ การใช้ก๊าซธรรมชาติ คาดว่าจะลดลงร้อยละ 9.5 เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เพื่อแก้ปัญหาราคาก๊ซธรรมชาติเหลว (LNG) จึงมีการใช้น้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลในการผลิตไฟฟ้าเพื่อทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติ โดยรัฐบาลได้มีการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลที่ใช้ผลิตไฟฟ้าเหลือศูนย์จนถึงวันที่ 15 ก.ย. 65 เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศ

นอกจากนี้ เท่าที่ สนพ.มองและคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบทั้งปี 65 น่าจะอยู่ที่ 110-115 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แม้ผลกระทบจากสงครามรัสเซียและยูเครนจะยืดเยื้อก็ตาม แต่หลายประเทศมีการปรับตัวหันไปใช้และหาน้ำมันดิบแหล่งและพลังงานอื่นๆทดแทนกัน ขณะเดียวกัน สนพ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดูและพิจารณาในส่วนค่าการกลั่นน้ำมันของกลุ่มผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ตามมาตรา 7 ที่มีการคำนวณค่าการกลั่นสูงถึงลิตรละ 5 บาท โดยเห็นว่าอัตราดังกล่าวสูงเกินไป ดังนั้น สนพ.กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาความเหมาะสมค่าการกลั่นน้ำมันดีเซลและเบนซินใหม่ โดยเห็นว่าราคาเหมาะสมน่าจะอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร แต่จะเป็นราคานี้หรือไม่ภายในเดือนมิย.นี้จะทราบ และคงจะดูเพิ่มเติมว่ากระทรวงพาณิชย์จะสามารถดึงน้ำมันทุกชนิดให้อยู่ในบัญชีเป็นสินค้าควบคุมด้วยหรือไม่

นอกจากนี้ ในส่วนของก๊าซธรรมชาติ สำหรับยานยนต์ (NGV ได้มีมาตรการตรึงราคาขายปลีกอยู่ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ย. 64 ถึง 15 มิ.ย.65) รวมถึงมีมาตรการ “เอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกัน” คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV สำหรับรถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ 13.62 บาท/กิโลกรัม สำหรับการใช้ถ่านหิน/ลิกไนต์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8จากการใช้ถ่านหินนำเข้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการใช้ในภาคอุตสาหกรรม ส่วนการใช้ไฟฟ้าพลังน้ำและไฟฟ้านำเข้า คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 ตามปริมาณน้ำฝนและ น้ำในเขื่อนที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งการนำเข้าไฟฟ้าจาก สปป.ลาว


พร้อมกันนี้ นายวัฒนพงษ์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมกับ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ยังได้รายงานผลการดำเนินงานเดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยว่า ที่ผ่านมาได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV ชาติ) ซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย 30@30 คือ การตั้งเป้าผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษ

เป็นศูนย์ ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี ค.ศ. 2030 หรือ ปี 2573 เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก และเป็นกลไกสำคัญในการก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

ทั้งนี้ ภาครัฐจึงได้ออกมาตรการสนับสนุนเพื่อส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าทั้งด้านภาษีและไม่ใช่ภาษี เพื่อให้ราคายานยนต์ไฟฟ้าใกล้เคียงกับรถยนต์สันดาป (ICE) พร้อมทั้งกระทรวงพลังงานจะเร่งดำเนินการส่งเสริมการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) ในพื้นที่สาธารณะให้เพียงพอกับยานยนต์ไฟฟ้า โดยปัจจุบันมีสถานีอัดประจุไฟฟ้าจำนวน 944 แห่งทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 4 มีนาคม 2565) สำหรับยอดจำนวนจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าถึงเดือนเม.ย.65 สะสมรวมทั้งสิ้น 5,614 คัน

ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอมาตรการส่งเสริมเพิ่มเติมได้แก่ (1) มาตรการสนับสนุนเครื่องอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ในเรื่องอัตราค่าไฟฟ้า Low Priority สำหรับผู้ประกอบการสถานีอัดประจุไฟฟ้าต่อเนื่อง ซึ่งที่ประชุมบอร์ด EV ชาติ เห็นชอบการขยายอัตราค่ไฟฟ้าถึงปี 68 รวมถึงด้านสิทธิและประโยชน์สำหรับกิจการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานพาหนะไฟฟ้า และได้มอบหมาย BOI พิจารณา ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้มีการจัดทำ Platform กลาง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ยานยนตีไฟฟ้า รวมถึงมาตรการและวิธีการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่กลุ่มผู้อยู่อาศัยในอาคารชุด คอนโดมิเนียม มาตรการสนับสนุนการลงทุนอุตสาหกรรมการผลินยนต์ไฟฟ้า ด้านสิทธิประโยชน์การลงทุนและการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต ที่ประชุมมอบหมายให้ BOI และกรมสรรพสามิตพิจารณา

โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างเตรียมเสนอมาตรการส่งเสริมเพิ่มเติมได้แก่ มาตรการสนับสนุนเครื่องอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และมาตรการสนับสนุนการลงทุนอุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าทั้งด้านสิทธิประโยชน์การลงทุนและการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกปี 65 ยอดจองรถ EV มากถึงกว่า 3,000 คัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระเบิดรถครู ตชด.

ทราบกลุ่มคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก

ทราบคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก จ.นราธิวาส แล้ว วันก่อเหตุมีแนวร่วมปฏิบัติการประมาณ 6 คน กลุ่มเป้าหมายคือเจ้าหน้าที่รัฐ

หมายจับผู้มีพระคุณ

ออกหมายจับผู้มีพระคุณจ้าง “เอ็ม กองเรือ” สังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตำรวจเร่งล่า “สมหวัง” ผู้มีพระคุณของ “เอ็ม กองเรือ” หลังศาลออกหมายจับใช้จ้างวานสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา

เศร้า ฝังศพ “พ่อ-ลูก” ครู ตชด. เหยื่อวางระเบิด

ประชาชน-ตำรวจตระเวนชายแดน นับพันคน ร่วมพิธีฝังศพ 2 พ่อลูก ครู ตชด. เหยื่อผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส

ข่าวแนะนำ

เหงาและเศร้า ขาดครูใหญ่สุวิทย์ และครูโดม

บรรยากาศโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตืองอ จ.นราธิวาส วันที่ไม่มีครูใหญ่สุวิทย์ และครูโดม ดูเงียบเหงา เต็มไปด้วยความโศกเศร้า

นายกฯ ลงพื้นที่ยะลา พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ปลื้มต้อนรับอบอุ่น

นายกฯ ขึ้น ฮ. ลงยะลา ทักทายเป็นภาษามลายู พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ท่ามกลางฝนตกโปรยปราย ปลื้มต้อนรับอบอุ่น บอกมีตรงไหนเดือดร้อน รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ลั่นอยู่ศาสนาใด-เชื้อชาติใด คนไทยด้วยกัน ขอรักสามัคคีกัน

“ปอ ตนุภัทร” บอกอยากให้ทำเหมือนเหตุการณ์จริง “แตงโม” ตกเรือ

“ปอ ตนุภัทร” ขอบคุณจำลองเหตุการณ์ “แตงโม” ตกเรือ แต่ทำทั้งทีอยากให้ทำเหมือนเหตุการณ์จริง ด้าน “แซน” เชื่อมีเจตนาดิสเครดิตตน ซัดไม่ได้จบทนาย อาจไม่รู้ข้อกฎหมาย แนะให้เรียนเนติก่อน

นายกฯไปนราธิวาส

นายกฯ นำคณะถึงนราธิวาส สวมเสื้อสูท “ลายนรารวมใจ”

“นายกฯ อิ๊งค์” ถึงนราธิวาสสวมเสื้อสูท “ลายนรารวมใจ” สีชมพูบานเย็น หวานฉ่ำ ถ่ายทอดความเป็นหนึ่งเดียวของผู้คนชาวนราธิวาส ที่มีความรัก สามัคคี ประสานความสัมพันธ์บนวิถีชีวิต และวัฒนธรรมอันงดงามของจังหวัดนราธิวาส