กรุงเทพฯ 20 พ.ค.- โรงกลั่นฯ เกาหลีใต้ระเบิดกระทบน้ำมันภูมิภาคตึงตัวเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันสำเร็จรูปขยับขึ้น แต่เป็นผลบวกต่อราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่น
นายณัฐพล นพรัตน์วงศ์ ผู้จัดการฝ่ายวางแผนการณิชย์ บมจ.ไทยออย์ (TOP) กล่าวถึงการระเบิดของโรงกลั่นน้ำมันในเกาหลีใต้ เมื่อคืนนี้ (19 พ.ค. ) ว่า ได้ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์น้ำมันสำเร็จรูปในภูมิภาคนี้ตึงตัวต่อเนื่อง และทำให้ราคาเบนซินขยับขึ้น และค่ามาร์จินยืนตัวระดับสูงต่อไป
ผลของโรงกลั่นของบริษัท เอส-ออยล์ คอร์ป (S-Oil Corp) โรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของเกาหลีใต้เกิดเหตุระเบิด ส่งผลให้หุ้นกลุ่มโรงกลั่นในไทยมีราคาปรับตัวสูงขึ้น และดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ดีดตัวขึ้นกว่า 10 จุด นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยที่โรงกลั่น เอส-ออยล์ คอร์ป (S-Oil Corp) ระเบิด เป็นบวกต่อกลุ่มน้ำมัน และยังเป็นผลจากเป็นไปตามทิศทางตามตลาดหุ้นอื่นๆ ในต่างประเทศ หลังจากดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลง และจีนเตรียมแผนการตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเตรียมใช้วงเงินสูงถึง 5.3 ล้านล้านดอลลาร์
นายกรภัทร ระบุว่า เบื้องต้นคาดกลุ่มที่มีแนวโน้มได้ประโยชน์มากสุดจะเป็นกลุ่มโรงกลั่น ที่เดิม supply ทั่วโลกตึงตัวอยู่แล้ว รองลงมาเป็นปิโตรเคมีที่อาจได้ประโยชน์ในระยะสั้น เพราะ PX/BZ/PP มี oversupply อยู่ เมื่อ spread ปรับเพิ่มขึ้น คาดกำลังการผลิตส่วนเกินโดยเฉพาะในจีนและมาเลเซียจะเริ่มผลิตมากขึ้นส่วนฝั่งน้ำมันดิบเรามองเป็นผลเชิงลบ เพราะ demand น้ำมันดิบอาจหายไปจากโรงกลั่น S-Oil โดยหากคิดที่กำลังการกลั่น 669,000 บาร์เรลต่อวัน จะคิดเป็นราว 0.8% ของการใช้น้ำมันดิบทั่วโลก ทั้งนี้คาดกำลังการผลิตโรงกลั่นของ S-Oil คิดเป็นราว 0.7% ของกำลังการผลิตโรงกลั่นทั่วโลก ส่วน PX/BZ/PP คิดเป็นราว 2.5%/ 0.9%/ 0.4% ของกำลังการผลิตทั่วโลก และ TOP ที่ได้ประโยชน์ทั้งปิโตรเลียม, PX, BZ, Lube และ IRPC ที่ได้ PP, BZ จะเด่นตามลำดับ ส่วน IVL อาจได้รับผลเชิงลบเล็กน้อยจาก feedstock ของ PET อย่าง PX ที่ราคาอาจสูงขึ้นในระยะสั้น (การขาย 50% ของ PET ของ IVL ไม่ได้เป็น fixed margin)
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า โรงกลั่นดังกล่าวมีกำลังผลิต 669,000 บาร์เรลต่อวัน (เทียบกับโรงกลั่น TOP ที่ใหญ่สุดในไทยมีกำลังผลิต 2.75 แสนบาร์เรลต่อวัน และกำลังผลิตรวมของประเทศไทย 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน) มีบริษัท Saudi Aramco เป็นผู้ถือหุ้นหลัก โดยแหล่งข่าวระบุว่าเกิดเหตุไฟไหม้ระหว่างการทดสอบหน่วยผลิต Alkylation Unit ตามขั้นตอนการซ่อมบำรุง หน่วยผลิตดังกล่าวทำหน้าที่ผลิตสารเพิ่มคุณภาพน้ำมันเบนซิน
ดังนั้น เป็นไปได้ว่าอาจกระทบต่อกระบวนการผลิตน้ำมันเบนซิน กรณีต้องปิดซ่อมบำรุงนานอาจส่งผลให้ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปในภูมิภาค (โดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน) ตึงตัวมากขึ้น จากปัจจัยข้างต้น คาดหุ้นโรงกลั่นวันนี้จะตอบรับเชิงบวก แนะนำเก็งกำไร TOP ,SPRC
บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ระบุว่า ก่อนเหตุการณ์ดังกล่าว ค่าการกลั่น S-GRM ในช่วงไตรมาส 2/65 ถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 20.7 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 7.96 เหรียญต่อบาร์เรล ในไตรมาส 1/65 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 2.05 เหรียญต่อบาร์เรลในไตรมาส 2/64 ประเด็นดังกล่าวเป็นบวกต่อกลุ่มธุรกิจการกลั่น (BCP, ESSO, TOP, SPRC, IRPC และ PTTGC) .–สำนักข่าวไทย