ไทเป 10 พ.ค. – นักเคลื่อนไหวชาวไต้หวันที่ถูกตัดสินจำคุก 5 ปีในจีนเผยวันนี้ว่า เขาถูกบังคับใช้แรงงานและต้องทนกินอาหารไม่ถูกสุขลักษณะในระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ แต่ไม่ถูกกระทำทารุณกรรมใด ๆ
นายหลี่ หมิง-เชอะ อาจารย์วิทยาลัยชุมชนและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนขององค์กรอิสระในไต้หวัน ซึ่งหายตัวไปในจีนเมื่อปี 2560 ก่อนถูกศาลจีนตัดสินว่ามีความผิดฐานพยายามโค่นล้มอำนาจรัฐในช่วงปลายปีเดียวกัน ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำในจีนและเดินทางกลับไต้หวันเมื่อเดือนเมษายน นายหลี่เผยกับผู้สื่อข่าวที่รัฐสภาไต้หวันว่า เขาถูกบังคับให้ทำงานผลิตเครื่องแต่งกาย เช่น รองเท้าและถุงมือ ในช่วงที่ถูกจำคุก 5 ปี โดยต้องทำงานวันละ 11-12 ชั่วโมง แทบจะไม่มีวันหยุด และยังไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับนักโทษส่วนใหญ่ในเรือนจำ ทั้งยังกล่าวว่าเรือนจำแห่งนี้เปรียบเสมือนโรงงานนรก
นายหลี่ยังระบุว่า เขาต้องทนกินอาหารไม่ถูกสุขลักษณะเพื่อประทังชีวิต แต่ไม่ถูกทรมานร่างกายหรือถูกเฆี่ยนตี และมองว่าตัวเขาถูกรัฐบาลจีนอุ้มหาย นายหลี่ยอมรับในช่วงไต่สวนคดีว่า เขาได้วิพากษ์วิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์จีนและเผยแพร่บทความหรือข้อโต้แย้งเพื่อสนับสนุนระบบหลายพรรคการเมืองของไต้หวัน ทั้งยังระบุว่า เขาไม่ได้รับอนุญาตให้การโต้แย้งในศาล และคิดว่าข้อหาที่จีนยัดเยียดให้เขาเป็นสิ่งที่น่าขัน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีอะไรกล่าวถึงรัฐบาลจีนอีกหรือไม่ เพราะตอนนี้นายหลี่ได้เดินทางกลับมายังไต้หวันและมีเสรีภาพในการพูด เขาตอบว่า ไต้หวันกับจีนเป็นคนละประเทศกันโดยมีช่องแคบไต้หวันเป็นเส้นแบ่งแยกพรมแดน.-สำนักข่าวไทย