รร.รอยัลริเวอร์ 22 ธ.ค.-นักวิจัยระบุอาชีวศึกษาทวิภาคีเป็นระบบที่ดี สร้างความรู้เเละอาชีพให้เด็ก เเนะปรับมาตรฐานให้เหมาะสมมากขึ้นเเละจัดทำเเผนการฝึกอาชีพให้ตรงกับสาขาที่เรียน
นางวัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) เป็นประธานเปิดการประชุม “ผลการติดตามและประเมินผลการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี” ที่สภาการศึกษาจัดขึ้น เพื่อติดตามประเมินผลการดำเนินงานนโยบายการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี วิเคราะห์ปัญหา พร้อมเสนอเเนะบทบาทเพื่อพัฒนาระบบการจัดการศึกษาให้ดีที่สุด โดยกล่าวว่า การศึกษาทวิภาคีคือตัวชี้วัดที่สำคัญของอาชีวศึกษา จะสำเร็จมากน้อยเเค่ไหนขึ้นกับผลลัพธ์ของการจัดการศึกษาได้ดีหรือไม่ หวังว่าผู้ประชุมทุกคนจะนำผลการประชุมช่วยกันทำให้การศึกษาไทยดีขึ้น
นายสันติ เจริญพรพัฒนา อาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า ผลการประเมินระบุว่า ระบบทวิภาคีเป็นระบบที่ดี ช่วยยกระดับการศึกษาระดับอาชีวศึกษา ส่งเสริมการมีอาชีพของนักเรียน ด้านสถานประกอบการพึงพอใจกับระบบ เพราะลดค่าใช้จ่ายในการฝึกช่วงเเรก ส่วนผู้เรียนได้รับรายได้ระหว่างเรียนเเละเข้าสู่การจ้างงานได้เร็ว เเต่ในเชิงปริมาณ สถาบันอุดมศึกษาผลิตผู้สำเร็จการศึกษาจากระบบทวิภาคีต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ , มาตรฐานการจัดการศึกษาเป็นหลักเกณฑ์กลาง อาจไม่สอดคล้องกับบริบทการดำเนินเฉพาะเช่น ประเภทของมหาวิทยาลัย เเผนการฝึกอาชีพอาจไม่สอดคล้องกับคุณภาพของเเรงงาน บางสาขาวิชา ไม่สามารถหาผู้ประกอบการที่ยินดีให้ฝึกอาชีพตรงกับสาขาวิชาที่เรียนเช่น ช่างไฟฟ้าเเละบัญชี ส่วนประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ผู้ปกครองยังมีทัศนคติว่าผู้เรียนระบบทวิภาคีมีฐานะยากจน จึงไม่นิยมส่งบุตรหลานเข้าระบบ เด็กหลายคนยังไม่มีความพร้อมในการฝึกวิชาชีพ ขณะที่ข้อเสนอเเนะเเนวทางการพัฒนาระบบทวิภาคีคือการปรับปรุงมาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาให้ยืดหยุ่นเเละเหมาะสม จัดทำเเผนการฝึกอาชีพให้ผู้เรียนได้ฝึกอาชีพตรงกับสาขาวิชาที่เรียน จัดทำเเผนการฝึกอาชีพมาตรฐานสำหรับเเต่ละสาขาวิชา เพื่อใช้กับสถานประกอบการขนาดใหญ่เพื่อการจัดการได้สะดวกเเละเป็นมาตรฐานมากขึ้น ควรเตรียมความพร้อมให้ผู้เรียนก่อนเข้าฝึกอาชีพ พัฒนาครูเเละครูฝึกให้มีความรู้เเละทักษะก่อนถ่ายทอดให้เด็ก ใช้มาตรการเชิงบังคับเพื่อให้สถานประกอบการส่งเสริมการศึกษาทวิภาคี ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศเยอรมนี จนประสบความสำเร็จด้านอาชีวศึกษา
นายสันติ กล่าวต่อว่าปัจจุบันมีนักเรียนอาชีวศึกษาที่เรียนในระบบทวิภาคี 64,761 คนจากนักเรียนอาชีวศึกษารวมเกือบ 700,000 คน ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่น้อย โดยผู้เรียนระดับปวส.สูงกว่าระดับปวช. เเละภาคตะวันเฉียงเหนือมีจำนวนผู้เรียนมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 38 โดยสาขาที่มีผู้เรียนสนใจเรียนมากที่สุดคือสาขาประมง เเละสาขาที่สนใจเรียนน้อยที่สุดคือสาขาเกษตรกรรมปฏิรูปเเละอุตสาหกรรมสิ่งทอ , มีสถาบันที่เปิดสอน 403 เเห่งเเละสถานประกอบการที่เข้าร่วมรับนักเรียนไปฝึกงาน 26 เเห่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย