กรุงเทพฯ 23 ธ.ค.- พล.ต.อ.สมยศ มอบเงินทีมคลี่คลายคดีจุดพลุแฟลร์ หลังสืบสวนจนออกหมายจับกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์และกองเชียร์ได้ พร้อมขึ้นแบล็กลิสต์และห้ามเข้าพื้นที่เด็ดขาด โดยจะซื้อตั๋วแจกเด็กด้อยโอกาสเข้าชมแทน ย้ำซิโก้ยังเป็นโคชทีมชาติไทยต่อไป ล่าสุดแกนนำกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์เข้ามอบตัวแล้ว
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มอบเงินรางวัล 330,000 บาท ให้ชุดสืบสวน สน.หัวหมาก หลังสืบสวนจนนำไปสู่การออกหมายจับแกนนำกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์ และกลุ่มกองเชียร์ รวม 11 คน ที่จุดพลุแฟลร์ระหว่างการเชียร์การแข่งขันฟุตบอลซูซูกิคัพ
พล.ต.อ.สมยศ ระบุว่าได้นำเงินมามอบให้กับตำรวจ สน.หัวหมาก ตามหมายจับละ 30,000 บาท หลังที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ และหลังจากนี้จะประกาศปิดโซนอัฒจรรย์ด้านทิศใต้ และซื้อตั๋วแจกให้กับเด็กนักเรียนที่ด้อยโอกาสเข้ามาชมแทน พร้อมขึ้นแบล็กลิสต์กองเชียร์กลุ่มดังกล่าว ไม่ให้เข้าภายในสนามของการกีฬาแห่งประเทศไทยได้อีก และให้ตำรวจสืบสวนต่อว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังกองเชียร์กลุ่มนี้หรือไม่ เพราะกองเชียร์ส่วนใหญ่ทราบกฎกติกาในการเข้าชมอยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจเป็นการดิสเครดิตสมาคม และหลังจากนี้จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก โดยจะกำชับบริษัทเอกชนผู้จัดงานให้ตรวจเข้มมากยิ่งขึ้น และเตรียมทีมกฎหมายไว้หากตำรวจประสงค์จะให้สมาคมฯมาแจ้งความกล่าวโทษร้องทุกข์
ส่วนเมื่อเช้านี้ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกับนายเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หรือซิโก้ โคชทีมชาติไทย ยืนยันซิโก้ยังคงเป็นโค้ชทีมชาติไทยต่อไป จึงได้เข้ามาพูดคุยเรื่องการดูแลทีมชาติไทยในปีหน้า และจะพิจารณานำโคชต่างชาติมาพัฒนาเทคนิคการเล่นฟุตบอลของทีมชาติไทยและวางรากฐานพัฒนาทีมเยาวชน สร้างการเล่นฟุตบอลแบบไทยสไตล์ ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้พูดคุยเรื่องต่อสัญญาซิโก้ เพราะมีข่าวว่ามีทีมต่างชาติทั้งเวียดนาม และอินโดนีเซีย มาขอซื้อตัวซิโก้ไปเป็นโคช จึงให้เกียรติซิโก้ตัดสินใจ แต่เมื่อสอบถามซิโก้ยืนยันไม่มีการติดต่อซื้อตัวแต่อย่างใด และอยากทำงานดูแลทีมชาติไทย
นอกจากนี้ยังพิจารณาให้พนักงานสอบสวน ไปยื่นเปลี่ยนแปลงเอกสารการขอหมายจับต่อศาล โดยเปลี่ยนระบุชื่อแทนการขอตามภาพถ่าย เชื่อจะมีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับหลังจากนี้มากกว่า 11 คน ส่วนกรณีการจับร้านจำหน่ายพลุนั้น มีการดำเนินคดีไปแล้ว 2 ราย
ล่าสุดนายประพจน์ ปานโพธิ์ทอง แกนนำกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์ เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ท.ศานิตย์ แล้วหลังถูกออกหมายจับและสืบสวนพบว่าเป็นผู้จุดพลุแฟลร์ในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลซูซูกิคัพ โดยเจ้าตัวเดินทางมาพร้อมกับเพื่อนในกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์ ปฎิเสธให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยแจกเอกสารขอความเป็นธรรม และขณะเดินเข้าห้องสอบสวนกลุ่มเพื่อนได้พยายามปัดกล้องสื่อมวลชนไม่ให้ถ่ายภาพนายประพจน์
พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยภายหลังการสอบสวนว่านายประพจน์ให้การภาคเสธ ยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์และเป็นผู้นำเชียร์แต่ไม่ได้เป็นคนจุดพลุ ซึ่งตำรวจจะสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงและแจ้งข้อกล่าวหาข่มเหงและขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานแก่นายประพจน์.-สำนักข่าวไทย