สมุทรสาคร 28 ธ.ค.- ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีวัยรุ่น 18 ปี ถูกฆ่าเผาทั้งเป็นย่านสมุทรสาครเมื่อปลายปี 57 ให้ประหารชีวิต 2 จำเลย แต่ให้การเป็นประโยชน์ คงเหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต
วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่ศาลจังหวัดสมุทรสาคร บัลลังก์ที่ 14 นายสำเริง สินธูระหัฐ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดสมุทรสาคร ได้อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นโจทก์ฟ้อง นายพชร เทียนชูศักดิ์ (หรือกัส) และนางสาวจันทราลักษณ์ ลั่นสิน (หรือออย) ในความผิดฐานร่วมกันฆ่านายขจร กิจฤกษ์ไทย หรือ จีโน่ อายุ 18 ปี (ขณะเสียชีวิต) โดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ศาลได้พิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมแล้วเห็นว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2557 เวลาเกิดเหตุเป็นเวลากลางวัน มีพยานเห็นชัดเจนว่า จำเลยที่ 1 คือ นายพชร ได้เดินออกมาจากป่าข้างทางแล้วใช้น้ำมันราดก่อนจุดไฟเผานายขจร ผู้ตาย ส่วนจำเลยที่ 2 นางสาวจันทราลักษณ์ เป็นผู้โทรศัพท์ลวงให้ผู้ตายออกมาพบ เพื่อเจตนาฆ่า โดยลักษณะของจำเลยทั้ง 2 คนนั้น เป็นการกระทำในลักษณะการแบ่งหน้าที่กันทำ อีกทั้งพยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมมั่นคง น่าเชื่อถือ ศาลจึงพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(4) ประกอบมาตรา 83 ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง แต่คำให้การในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือโทษจำคุกตลอดชีวิตแก่จำเลยทั้ง 2 คน
ด้านพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวภายหลังรับฟังศาลอ่านคำพิพากษาว่า ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร แต่เชื่อว่าคำตัดสินจะทำให้ดวงวิญญาณของลูกชายไปสู่สุขคติ
ขณะที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายประชาชน ระบุว่า ต้องดูว่าฝ่ายจำเลยจะยื่นประกันตัวหรือไม่ หากมีการขอยื่นประกันตัวนั้น ตนในฐานะทนายฝ่ายโจทก์จะดำเนินการขอยื่นคัดค้านการประกันตัว เพื่อป้องกันการหลบหนี.-สำนักข่าวไทย