อุตรดิตถ์ 18 มี.ค. – เกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมนักวิชาการเกษตรลงพื้นที่ แปลงปลูกกระเทียมเกษตรกร ต.บ้านฝาย อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ เพื่อค้นหา “กระเทียมโทนน้ำปาด” ที่ร่ำลือว่า หายาก ราคาแพง เจ้าของต้องเฝ้า
ช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน เกษตรกรชาวไร่จะปลูกกระเทียมไทยสายพันธุ์น้ำปาด ซึ่งมีพื้นที่ปลูกอยู่ ประมาณ 100 ไร่ ที่ตำบลบ้านฝาย ผลผลิตประมาณ 300 ตัน โดยกระเทียมเป็นพืชทนแล้ง ใช้ระยะเวลาในการปลูก 120 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งขายได้ แต่สิ่งที่เกษตรกร ตำบลบ้านฝาย กำลังค้นหาไม่ใช่กระเทียมธรรมดา แต่เป็น “กระเทียมโทนน้ำปาด” ซึ่งค่อนข้างหายาก มีน้อย เมื่อเทียบกับกระเทียมทั่วไป มีลักษณะหัวจะเล็กกว่ากระเทียมปกติทั่วไป 4 – 5 เท่า
นายรัตน์ นาคหอม เกษตรกรปลูกกระเทียมน้ำปาด เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อถึงเวลาเก็บหรือถอนกระเทียม ต้องมาเฝ้าคนงาน เพราะกลัวคนงานขโมยกระเทียมโทน ปีนี้ปลูกกระเทียม 4 ไร่ ได้กระเทียมโทน 6 ขีด ซึ่งกระเทียมโทน ราคาขายสดกิโลกรัมละ 500 บาท ส่วนกระเทียมธรรมดา 3 กิโลกรัม 100 บาท กระเทียมโทน จึงเป็นที่ต้องการมาก ไม่เฝ้าหายแน่นอน
ด้าน นายพัฒนศักดิ์ พ่วงสมบัติ เกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า กระเทียมโทน เป็นกระเทียมที่หายาก เกิดจากการเติบโตไม่สมบูรณ์ ไม่มีการแตกกลีบ จึงเหลือเป็นหัวเดียว ทำให้เป็นกระเทียมที่หายาก มีความต้องการสูง ราคากิโลกรัมละ 500 บาท สามารถกินได้ทั้งแบบสดๆ หรือจะนำไป ดองหวาน ดองเค็ม หรือดองน้ำผึ้ง เมื่อดองแล้วจะมีรสหวาน กลิ่นหอม ส่วนสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ โดยกระเทียมน้ำปาดเป็นกระเทียมพันธุ์ไทยแท้ มีค่าสารอินทรีย์กำมะถันรวมทั้งหัว 1.543 % จัดเป็นกระเทียมที่สารอินทรีย์กำมะถันสูงสุด.-สำนักข่าวไทย