สปท.เห็นชอบรายงานควบคุมตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ

ห้องประชุม สปท.  2รัฐสภา 9 ม.ค.- สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เห็นชอบรายงานปฏิรูปการควบคุมและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ เสนอแก้ไขข้อบังคับ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ หวังควบคุมและตรวจสอบรัฐทุกมิติ


การประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มีร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธาน สปท. เป็นประธานการประชุม ก่อนการเข้าสู่วาระการพิจารณา ประธานแจ้งเรื่องการถึงแก่อนิจกรรมของพ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย สมาชิก สปท. และสมาชิกยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อเป็นการไว้อาลัย พร้อมหารือกับที่ประชุม เรื่องการบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีมติให้หักเงินเดือนสมาชิกคนละ 5,000 บาท สมาชิกบางรายจึงเสนอให้สำรองจ่ายเงินไปก่อนจำนวน 1 ล้านบาท โดยมอบหมายให้ นายเสรี สุวรรณภานนท์ และ พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อนำเงินดังกล่าวให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนตามลำดับความสำคัญ

จากนั้นเข้าสู่วาระการพิจารณารายงานการปฏิรูปเรื่อง การควบคุมและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง โดยมีนายวันชัย สอนศิริ กรรมาธิการ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปการควบคุมและการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ  ชี้แจงรายงานว่า เป็นการตรวจสอบอำนาจรัฐทั้งฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำ ผ่านกลไกตามรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย การควบคุมและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐผ่านระบบรัฐสภา องค์กรตามรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรม รวมถึงการควบคุมและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐโดยประชาชน บางข้อเสนอสามารถปฏิรูปโดยแก้ไขข้อบังคับการประชุม หรือแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญได้


สำหรับการควบคุมและการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐผ่านระบบรัฐสภา ประกอบด้วย การตั้งกระทู้ถาม การอภิปรายไม่ไว้วางใจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเปิดอภิปรายทั่วไปของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และรัฐสภา  ตลอดจนการเสนอญัตติด้วย  โดยการตั้งกระทู้ถามนั้น กรรมาธิการ เห็นว่า ที่ผ่านมา ส.ส.ส่วนใหญ่มักจะหยิบยกเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของตนเอง มุ่งหวังเพื่อหาเสียงหรือสร้างผลงานมากกว่าตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ อีกทั้งยังไม่มีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนในการตอบกระทู้และติดตามผลการดำเนินงานตามกระทู้ถาม คณะกรรมาธิการฯ จึงเสนอให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองกระทู้ถามในทั้ง 2 สภา เพื่อทำหน้าที่กลั่นกรองให้คำแนะนำในกระทู้ถามที่เสนอโดยสมาชิก ส.ส. และ ส.ว. รวมถึงต้องกำหนดระยะเวลาอย่างชัดเจน  สำหรับการตอบกระทู้ของนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่ได้รับหมอบหมาย โดยมีมาตรการลงโทษที่ชัดเจน ในกรณีที่รัฐบาลไม่สามารถตอบกระทู้ได้ในเวลาที่กำหนด

นายวันชัย ยังกล่าวถึงการปฏิรูปการควบคุมและการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐผ่านองค์กรตามรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ และกระบวนการยุติธรรม เรื่องปัญหาของกระบวนการได้มาและสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า ที่มาของคณะกรรมการสรรหาตามบทบัญญัติร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ ได้กำหนดสัดส่วนให้คณะกรรมการสรรหามาจากฝ่ายการเมืองเพียง 2 คน ทำให้โอกาสของจำนวนคะแนนเสียงในการสรรหาจำนวน 7 คน ใน 9 คน อาจจะมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้การสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และกรรมการในองค์กรอิสระทุกองค์กรมีแนวโน้มที่ถูกจำกัดในบางกลุ่มเท่านั้น จึงควรกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการกำหนดคณะกรรมการสรรหากรรมการในองค์กรอิสระในแต่ละองค์กร เพื่อป้องกันไม่ให้กำหนดตัวบุคคลไว้ล่วงหน้า อีกทั้งต้องกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาบุคคลให้เกิดความชัดเจน

ในส่วนของบทลงโทษผู้ที่กระทำผิดในคดีทุจริตคอร์รัปชัน เสนอให้ปรับเปลี่ยนอัตราการลงโทษ คดีที่สร้างความเสียหายมูลค่าเกิน 100 -1,000 ล้านบาท ให้จำคุกตลอดชีวิต และคดีที่สร้างความเสียหายเกิน 1,000  ล้านบาทจะต้องถูกประหารชีวิต เพื่อเป็นการควบคุมและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐให้เกิดประสิทธิภาพ


ขณะที่สมาชิก สปท.ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับข้อเสนอ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า รายงานมีความเกี่ยวโยงกับหลายคณะกรรมาธิการ อาทิ คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการปกครองท้องถิ่น คณะกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ จึงเห็นว่า ควรพิจารณาเรื่องนี้ร่วมกับคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครอบคลุมทุกประเด็น นอกจากนี้การพิจารณาคดีทุจริตคอร์รัปชันในปัจจุบัน มีลักษณะซ้ำซ้อน ทำให้เกิดความล่าช้าในการพิจารณา จึงควรกำหนดกรอบการทำงานของแต่ละองค์กรให้มีความชัดเจน

จากนั้น ที่ประชุมจึงมีมติเอกฉันท์เห็นชอบรายงานฉบับนี้ ด้วยคะแนนเสียง 155  เสียง งดออกเสียง  7 เสียง โดยคณะกรรมาธิการฯ จะนำกลับไปแก้ไขตามข้อเสนอแนะของสมาชิกและจะส่งต่อไปยังคณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ดำเนินการต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ปล่อยตัว “แซม ยุรนันท์” สวมกอดครอบครัว ขอกลับบ้านก่อน

“แซม ยุรนันท์” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว สวมกอดครอบครัวด้วยสีหน้ามีความสุข พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาต้อนรับ ขอกลับบ้านก่อน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

จับแล้วมือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ย่านบางลำพู

“ผู้การจ๋อ” ส่ง “สารวัตรแจ๊ะ” นำทัพสืบ บช.น. ร่วมตำรวจกัมพูชา แกะรอยบุกจับ “จ่าเอ็ม” มือยิง “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถึงพระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีดิไอคอน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี “ดิไอคอน” เปิดใจขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทัณฑสถานหญิง ดูแลเป็นอย่างดี ยืนยันบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้ว

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้