ทำเนียบฯ 11 ม.ค.-รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรัฐบาลรับมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้จากสปท. 1 ล้านบาท และของบริจาคภาคเอกชนหลายรายการ เตรียมประชุมหารือมาตรการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยที่เสียชีวิต บาดเจ็บและบ้านเรือนพังเสียหาย เร่งสำรวจวัดที่ได้รับความเสียหาย เพื่อบูรณะหลังน้ำลด
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรัฐบาลรับมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้จากคณะสมาชิกสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ (สปท.) จำนวน 1 ล้านบาท รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่มอบน้ำดื่ม 5,000 ขวด บริษัท เอไอเอส จำกัด มอบเงินจำนวน 1 ล้านบาท พร้อมน้ำดื่ม 6,000 ขวด และบริษัท ไทวัสดุ จำกัด มอบส้วมกระดาษ 1,500 ชิ้น
นายออมสิน กล่าวว่า ขอขอบคุณแทนผู้ประสบภัยในภาคใต้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ฝากขอบคุณและรับทราบว่าหน่วยงานต่าง ๆ จะมามอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในวันนี้ และได้มอบหมายให้ตนมาทำหน้าที่แทน อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้มีดำริชัดเจนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ เนื่องจากเมืองมีการพัฒนาเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และในส่วนของถนนได้มีการสั่งการให้ทางกระทรวงคมนาคมเจาะเพื่อทำเป็นท่อให้น้ำไหลผ่านและไม่ให้ขวางทางน้ำ ซึ่งสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว แต่ในเรื่องของอาคารต่างๆ ต้องใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีดำเนินการ แต่สิ่งใดที่สามารถทำได้ต้องเร่งดำเนินการก่อน โดยจะรีบนำเงินและสิ่งของมอบให้ผู้กับผู้ประสบภัยตามวิธีการต่าง ๆ ต่อไป
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยสาธารณภัย เพื่อดูแลเงินบริจาคช่วยเหลือประชาชน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขได้ ขณะเดียวกันมีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการอุทกภัยกว่า 111 อำเภอ และมีประชาชนได้รับผลกระทบ 1 ล้านคน เสียชีวิต 25 ราย ซึ่งอาจจะใช้หลักเกณฑ์การเยียวยาผู้ประสบภัยเดิมในปี2554 คือผู้เสียชีวิตได้รับรายละ 50,000 บาท สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จะพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนกรณีที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายทางคณะกรรมการจะต้องหารือกันก่อนว่าจะกำหนดหลักเกณฑ์อย่างไร สำหรับของบริจาคที่ได้รับนี้จะทยอยมอบให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัย แต่เบื้องต้นจะนำเงินบริจาคที่ได้รับช่วยเหลือก่อนเพื่อความรวดเร็วและคล่องตัวขึ้น
นายออมสิน กล่าวว่า ได้กำชับให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พ.ศ.) เร่งสำรวจวัดที่ได้รับความเสียหาย เพื่อบูรณะหลังน้ำลดด้วย และหากวัดใดไม่ได้รับความเสียหายจะขอให้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราวของประชาชน .-สำนักข่าวไทย