กรมคุ้มครองสิทธิ 13 ม.ค.-อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ชี้หาก ‘ครูจอมทรัพย์’ ถูกตัดสินว่าเป็นแพะในคดีอาญา สามารถเรียกร้องเงินเยียวยาที่ต้องถูกจำคุก
น.ส.ปิติกาญจน์ สิทธิเดช อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า กรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎร์สงเคราะห์ จ.สกลนคร ที่ตกเป็นแพะในคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานเข้าช่วยเหลือเพื่อให้ความยุติธรรมกับประชาชนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นเรื่องรื้อฟื้นคดีอาญา โดยศาลนัดนางจอมทรัพย์พร้อมคู่ความในวันที่ 16 ม.ค.นี้
ทั้งนี้ หากศาลพิพากษาว่านางจอมทรัพย์ เป็นผู้บริสุทธิ์ก็สามารถยื่นเรื่องเรียกร้องค่าเสียหายตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2559 ตามมาตรา 21 ได้แก่ค่าทดแทนการถูกคุมขังวันละ 200 บาท เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือนหรือประมาณ 109,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท
ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ ไม่เกิน 50,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างถูกดำเนินคดีในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ แต่สำหรับกรณีนี้เป็นข้าราชการครูมีเงินเดือนประจำ จึงต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของต้นสังกัด ค่าทนายความสำหรับคดีที่มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป แต่ไม่ถึงประหารชีวิตชดเชยไม่เกิน 75,000 บาท ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆในการดำเนินคดีไม่เกิน 30,000 บาท โดยทางกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะตั้งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาค่าเสียหายให้กับแพะในคดีอาญาตามสิทธิที่พึงได้รับ.-สำนักข่าวไทย
