ตลาดทุ่งสองห้อง 5 ม.ค.-“สิระ” ถือฤกษ์วันเกิดลุยตลาดทุ่งสองห้องช่วยภรรยาหาเสียง มั่นใจยึดเก้าอี้ส.ส.หลักสี่คืนได้ คุยเกาะติดพื้นที่ตลอด 3 ปี เตรียมฟ้องส.ส.ก้าวไกล เรียกค่าเสียหาย 50 ล้าน ปมตัดต่อภาพโจมตี
นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ถือฤกษ์วันคล้ายวันเกิดลงพื้นที่ครั้งแรก หลังจากพ้นสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. ที่ตลาดเคหะทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. เพื่อช่วยนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ หรือมาดามหลี ภรรยาในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หลักสี่-จตุจักร พรรคพลังประชารัฐ หาเสียง พร้อมตักบาตรพระสงฆ์ 5 รูป เนื่องในวันคล้ายวันเกิดด้วย โดยบรรยากาศที่ตลาดทุ่งสองห้อง มีบรรดาแฟนคลับมารอให้การต้อนรับพร้อมอวยพรวันเกิด นอกจากนี้ ยังนำเค้กวันเกิดมาให้นายสิระเป่ากลางตลาดด้วย
นายสิระ ถือโอกาสขอพรวันเกิดให้ชาวหลักสี่เลือกภรรยาของตนเป็นผู้แทนเพื่อสานต่องานที่เคยทำไว้ และขอให้ผู้สมัครคนอื่นทำการเมืองอย่างสุจริต ไม่โจมตีไม่ใส่ร้าย โดยนายสิระเชื่อว่านางสรัลรัศมิ์จะสามารถเข้าไปในสภาแบบแซ่บ ๆ และเป็นองครักษ์พิทักษ์ลุงตู่ได้อย่างแน่นอน
ด้านนางสรัลรัศมิ์ ยืนยันว่า ทำงานอย่างต่อเนื่องและเข้าถึงประชาชนตลอด 3 ปีที่ผ่านมา อยู่เคียงข้างประชาชนทั้งยามทุกข์และยามสุข กลยุทธ์ของตนคือการที่ประชาชนพึ่งพาได้ตลอดเวลา เข้าถึงได้ง่าย ตอบสนองต่อการเรียกร้องของประชาชนอย่างรวดเร็ว
เมื่อถามว่ากดดันหรือไม่หลังจากหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐประกาศว่าพรรคพลังประชารัฐจะต้องได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ นางสรัลรัศมิ์ กล่าวว่า ไม่มีความกดดัน เพราะคนอื่นเพิ่งเริ่มต้นหาเสียง แต่เราหาเสียงล่วงหน้ามา 3 ปีแล้ว ความได้เปรียบ อยู่ที่เราอยู่แล้ว ซึ่งจากการลงพื้นที่พบปะประชาชน สิ่งที่ต้องรีบแก้ไขปัญหาคือเรื่องปากท้องของประชาชน ซึ่งรัฐบาลได้ออกมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว และตนจะคอยเติมเต็มในสิ่งที่ประชาชนยังขาดอยู่ ทั้งยังพร้อมจะสานต่อสิ่งที่นายสิระทำไว้ได้ดีอยู่แล้ว เช่นงานในสภา จะเข้าไปทำหน้าที่ปกป้องรัฐบาล
นายสิระ กล่าวว่า จากเดิมที่ตนเคยลงพื้นที่หลักสี่ครั้งแรก พบว่า บางพื้นที่เป็นพื้นที่พักยาและมั่วสุม แต่ได้ปราบปรามเรื่องยาเสพติดจนหมดแล้ว และได้พัฒนาเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ ส่วนคนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งและบอกว่าเคยเป็นอดีตส.ส.นั้น เวลาลงพื้นที่ให้ดูว่าที่ผ่านมามีความเปลี่ยนแปลงหรือไม่
ส่วนความในใจที่อยากจะพูด นายสิระ กล่าวว่า ระยะเวลารัฐบาลและรัฐสภาเหลือปีกว่า ๆ แต่ปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้จึงขอเป็น ส.ส.เขต ยืนยันว่าพร้อมสะท้อนปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนเข้าสู่สภา ฯ ซึ่งนางสรัลรัศมิ์ดูแลประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมอยู่ จึงถือว่าครบเครื่องและพร้อมทำงานทันทีโดยไม่ต้องศึกษาพื้นที่ ไม่ต้องศึกษาคน สามารถทำงานต่อได้เลย
เมื่อถามว่า พรุ่งนี้(6 ม.ค.)จะเปิดรับสมัครแล้วจะถือเคล็ดอะไรหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า ไม่มีอะไร แต่พรุ่งนี้เห็นว่าประชาชนในพื้นที่เขตหลักสี่-จตุจักรจะพานางสรัลรัศมิ์เดินไปสมัคร ถือว่าเป็นหญิงแกร่ง หญิงกล้า หญิงที่ทำงานเป็นและมีคุณภาพ
ส่วนนายสิระวางแผนชีวิตทางการเมืองหลังจากพ้นตำแหน่งส.ส.อย่างไร นายสิระ กล่าวว่า สบายๆ ก่อนหน้านี้ตนต่อสู้เรื่องความยุติธรรมของประชาชนมาโดยตลอด หลังจากนี้จะใช้ตู้ ปณ.999 รับเรื่องร้องเรียนช่วยเหลือประชาชนต่อไป พร้อมรวบรวมทีมกฎหมายเพื่อต่อสู้ให้ทั้งคนหลักสี่และคนทั้งประเทศเหมือนเดิม
“ยอมรับว่าเคยลังเลว่า จะหยุดเรื่องบ้านเมืองเพื่อไปเที่ยวรอบโลกดีไหม แต่ว่ามาดามหลีบอกว่าเราทิ้งประชาชนไม่ได้ เวลาเกิดวิกฤติ แล้วประชาชนที่นึกถึงเราแล้วโทรหาเรา แต่เราทิ้งเขาไปจะเกิดอะไรขึ้น ที่เราเคยทุ่มเทไปมันจะเสียเปล่าไหม จึงขอทำงานเพื่อประชาชนต่อไป” นายสิระ กล่าว
นายสิระ กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลนำรูปของตัวเองไปตัดต่อในลักษณะล้อเลียนว่า ขอให้สู้กันแบบแมน ๆ วันนี้มีนักการเมืองคนหนึ่งที่เคยต่อต้านเรื่องของการก้มกราบตัดต่อภาพใส่ร้ายตน จึงให้ทีมกฎหมายรวบรวมพยานหลักฐานและเตรียมฟ้องดำเนินคดีเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท
“ผมจะให้ทนายไปฟ้องร้อง นี่คือคนรุ่นใหม่ ทำอย่างนี้ได้อย่างไร และที่ต่อต้านเรื่องก้มกราบ เรื่องไหว้สวย พอจะมาสมัคร ส.ส.ก็ไหว้สวยจริง ๆ ก้มกราบได้จริง ๆ การกระทำกับจิตสำนึกนั้นขัดแย้งกันหรือไม่ ขอให้ประชาชนดูว่า เป็นการเล่นละครหรือไม่ หรือเป็นความจริงใจกับประชาชน แต่ยืนยันว่าเราจะหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ ไม่ต้องห่วง เวลาลงพื้นที่ก็จะรู้ เพราะเรารู้จักทุกคน” นายสิระ กล่าว
เมื่อถามว่า จะส่งต่อหลวงพ่อป้อมให้ภรรยาหรือไม่ นายสิระ ทำท่าทางควักเหรียญหลวงพ่อป้อมที่ห้อยคอพร้อมอุทานว่า “โอ้โหย” ทำให้ผู้สื่อถามย้ำว่า จะมีให้มาดามหลีด้วยหรือไม่ ซึ่งนางสรัลรัศมิ์ ตอบผู้สื่อข่าวว่า “มีค่ะมี”
เมื่อถามน้ำว่า ตอนนี้หลวงพ่อป้อมยังขลังอยู่หรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นการพิสูจน์แล้วว่าศาลรัฐธรรมนูญแทรกแซงไม่ได้ เพราะขนาดตนที่ต่อสู้ให้ทุกเรื่องยังไม่รอด ใครถูกตัดสินอย่างไร อย่าไปโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนการต่อสู้คดีที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายการเลือกตั้งที่ผ่านมา นายสิระ กล่าวว่า กำลังคัดเรื่องคำวินิจฉัยกลางว่าจะต้องทำอะไรบ้าง แล้วทีมทนายความจะจัดการให้ ยืนยันว่าเรื่องคืนเงินและเรื่องไม่รับเงินเดือนนั้นตนเองเคยทำมาก่อนแล้วตั้งแต่สมัยเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ส่วนเงินของสภาฯ ต้องดูรายละเอียดก่อน.-สำนักข่าวไทย