ทำเนียบรัฐบาล 4 ม.ค.-โฆษกรัฐบาล เผยครม.รับทราบผลประเมิน ITA หน่วยงานรัฐปี 64 คะแนนภาพรวมประเทศสูงกว่าปีที่ผ่านมา 13.35 สะท้อนเป็นองค์กรคุณธรรม โปร่งใสมากขึ้น
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ประเมิน ITA เป็นแนวนโยบายสำคัญป้องกันการทุจริตที่บังคับใช้กับหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ และเป็นกลไกป้องกันการทุจริตเชิงรุกได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งกำหนดเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนแผนงานระดับประเทศ โดยกำหนดค่าเป้าหมายให้ปี 2565 หน่วยงานภาครัฐมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ 85 คะแนนขึ้นไปหรือไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มีหน่วยงานภาครัฐ 8,300 แห่งทั่วประเทศเข้าร่วมการประเมิน ITA ผ่านระบบ ITAS ที่เว็บไซต์ http://itas.nacc.go.th ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม 2564 ครอบคลุมหน่วยงานภาครัฐทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ และองค์กรอิสระ ซึ่งมีประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามามีส่วนร่วมให้ข้อมูลการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ จำนวน 1,331,588 คน พบว่ามีคะแนนเฉลี่ยภาพรวมของประเทศเท่ากับ 81.25 คะแนน สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 13.35 คะแนน และมีจำนวนหน่วยงานภาครัฐที่ผลการประเมิน ITA ผ่านค่าเป้าหมายตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นที่ 21 การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ 4,146 หน่วยงาน หรือร้อยละ 49.95 สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 36.76
“ปีที่แล้วหน่วยงานภาครัฐส่วนใหญ่เข้าสู่องค์กรที่มีคุณธรรมและความโปร่งใสตามหลักเกณฑ์การประเมิน ITA ในระดับค่อนข้างสูง โดยอยู่ที่ระดับ A ถึงร้อยละ 26.22 ซึ่งการประเมิน ITA สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐตื่นตัวการต่อต้านการทุจริตมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีความกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานและการให้บริการภาครัฐเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น” นายธนกร กล่าว
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้หน่วยงานหาแนวทางปิดจุดอ่อนกระบวนการทุจริตที่ผ่านมา ที่มีกระบวนการสมยอมทั้งผู้รับและผู้ให้ โดยปลัดกระทรวงซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดต้องร่วมรับผิดชอบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่า การปราบปรามการทุจริต สร้างโปร่งใส เป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาล ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงคดีทุจริตที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่เพราะการทำผิดมากขึ้น แต่เป็นผลจากความเอาจริงเอาจังของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมาย ทำให้ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2557 – ปัจจุบัน มีคดีทุจริตทั้งนักการเมือง ส.ส. ข้าราชการ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและถูกตัดสินจำคุก ที่สำคัญคือ พยายามแก้วัฒนธรรมต่างตอบแทนในสังคมไทยให้ได้ โดยยืนยันไม่ว่าคนรวยคนจน หากทำผิดต้องติดคุก.-สำนักข่าวไทย