บุกบ้านพิสูจน์กลิ่นเน่าปริศนาเหม็นคลุ้ง เจอแต่ความว่างเปล่า

กรุงเทพฯ 23 ธ.ค. – ชาวบ้านสุดหลอนกลิ่นเน่าปริศนาเหม็นคละคลุ้ง แจ้งตำรวจและกู้ภัยเข้าตรวจสอบ พอเปิดบ้านเข้าไปถึงกับฉงน พบแต่ความว่างเปล่า

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งว่ามีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านย่านสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครกู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุ พบบริเวณหน้าประตูบ้านหลังดังกล่าวมีกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรง และมีชาวบ้านออกมามุงดูเป็นจำนวนมาก ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ถึงต้นเหตุของกลิ่นที่เกิดขึ้น และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าวว่ามีศพ หรืออะไรกันแน่ โดยลักษณะเบื้องต้นของบ้านหลังนี้ เป็นทาวน์เฮาน์ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง บริเวณบ้านมีรั้วรอบขอบชิด และค่อนข้างรกร้าง ถูกปกคลุมไปด้วยกิ่งของต้นไม้ไม่ทราบชนิดที่ขาดการดูแลมาเป็นแรมปี

จากการตรวจสอบบริเวณหน้าประตูรั้ว พบว่าประตูเหล็กด้านหน้าถูกล็อกอยู่ แต่เมื่อตัดสายล็อกประตูเหล็กหน้าบ้านและเปิดประตูรั้วเข้าไป สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ กลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

เพื่อความสบายใจของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำทีมอาสาสมัครกู้ภัยเดินเข้าไปภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบ แต่สิ่งที่พบก็คือ สภาพภายในบ้านปกติดีทุกอย่าง ทั้งข้างบนและด้านล่าง และไม่มีใครอยู่เลย แม้กระทั่งศพที่ชาวบ้านต่างสงสัยว่าจะมีก็ไม่พบ แต่สิ่งที่ทำให้ชาวบ้าน รวมทั้งกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่างสงสัยก็คือ กลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงคล้ายกลิ่นศพหายไป โดยไม่มีใครให้คำตอบได้ เพราะเจ้าของบ้านก็หาไม่เจอ

จากการสอบถามนางศิริรัตน์ รัตนะ อายุ 62 ปี เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นผู้แจ้ง เล่าว่า ตนเห็นเจ้าของบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อวันเสาร์ มีลูกสาวมารับออกไป และเข้ามาส่ง แกเดินเข้าบ้านไปแล้วไม่เห็นอีกเลย จนมาวันนี้ได้กลิ่นเหม็น ถามเพื่อนบ้าน ใครเดินผ่านไปมาก็ได้กลิ่น ตะโกนเรียกแกก็ไม่มีเสียงตอบ เป็นห่วงแก เพราะอายุมากแล้ว จึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับนางศิริรัตน์ ว่า ถ้าเจ้าของบ้านกลับมา หรือทางญาติของเจ้าของบ้านมาที่บ้านหลังนี้ ให้ติดต่อกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านแจ้งเหตุไปนั้น ก็เป็นเพราะความสงสัยที่ได้กลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงออกมาจากบ้านหลังนี้ และอาจจะด้วยความเป็นห่วงเจ้าของบ้านที่มีอายุมากแล้ว เพื่อความสบายใจของชาวบ้าน จึงเป็นที่มาของเหตุการณ์ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชี้แจงกับทางเจ้าของบ้าน เพื่อจะได้สบายใจ และคลายข้อสงสัย. – สำนักข่าวไทย