เชียงราย 17 ธ.ค.-เสธ ทบ. แจง กองทัพบกร่วมกับจังหวัดชายแดน พร้อมรองรับปัญหาผู้หนีภัยจากการสู้รบ ตามแนวชายแดนไทยเมียนมา พร้อมย้ำเหตุปะทะใกล้ชายแดน จ.ตาก ยุติแล้ว ประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้านทยอยเดินทางกลับ
พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก ในฐานะโฆษกกองทัพบกระบุถึงเหตุปะทะ บริเวณแนวชายแดนจังหวัดตาก ทำให้มีประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้านข้ามมาฝั่งไทยว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลา 10 นาฬิกาเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) บริเวณพื้นที่ตรงข้ามอำเภอแม่สอดจังหวัดตาก โดยเป็นการปะทะกันของกำลังประเทศเพื่อนบ้านในระยะที่ติดกับแนวชายแดนทำให้ประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้านส่วนหนึ่งข้ามมายังฝั่งไทยเพราะคิดว่ามีความปลอดภัย
สำหรับแนวทางปฏิบัติตามแนวชายแดนจะมีพื้นที่ความปลอดภัยรองรับให้ประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้านในจุดต่างๆ นั้น พล.อ.สันติพงศ์ กล่าวว่า ปฏิบัติตามหลักการมนุษยธรรม แต่ส่วนใหญ่แล้วเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านก็จะเดินทางกลับไปอย่างเช่นในกรณีที่เกิดขึ้นปะทะเมื่อวานนี้ใกล้ชายแดนจังหวัดตาก ประชาชนไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้ามาพักค้างแรมในฝั่งไทย เพียงแค่เข้ามาเพื่อต้องการพื้นที่ปลอดภัย และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นก็ทยอยเดินทางกลับ ซึ่งจากการติดตามเหตุปะทะเมื่อวานนี้สิ้นลงในเวลา 17 นาฬิกา และ ไม่มีการสูญเสียใดๆ
ส่วนการตรวจสอบและแยกการดำเนินระหว่างกรณีผู้หนีภัยจากการสู้รบ กับผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ถ้าเป็นเรื่องของการฉีดวัคซีนนั้นเป็นเรื่องที่ผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลโดยตรง ซึ่งจะให้ความสำคัญกับคนในประเทศเป็นลำดับแรก ส่วนการดูแลประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านก็จะเป็นลักษณะของการดูแลตามหลักมนุษยธรรมเป็นหลัก
โฆษกกองทัพบก ยังย้ำถึงกรณีปัญหาผู้หนีภัยจากการสู้รบ ว่า ฝ่ายความมั่นคงดูแลตามหลักการโดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดูแลประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้านที่ข้ามมาฝั่งไทย แต่ถ้าเป็นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จะใช้กลไกการปฏิบัติของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองผลักดันตามกระบวนการทางกฎหมายและพยายามสืบสวนไปถึงผู้นำพา เพื่อเอาผิดทั้งขบวนการ ส่วนที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกำชับให้เตรียมรองรับกรณีปัญหาผู้หนีภัยจากการสู้รบนั้น ทางจังหวัดมีแผนรองรับไว้แล้ว ส่วนทหารจะดูแลพื้นที่ตามแนวชายแดนเป็นหลัก และผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ จะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในฐานะผู้ใหญ่ที่สุดในพื้นที่. สำนักข่าวไทย