สธ.13 ธ.ค.- อธิบดีกรมวิทย์แจงพบผู้สงสัยติดเชื้อโอไมครอน 11 คน คอนเฟิร์มแล้ว 8 คน เหลือรอตรวจยืนยันอีก 3 คน ทั้งหมดเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ อยู่ในระบบ T&G, Sandbox, ASQ คาด 3 วันรู้ผล พร้อมยืนยันยังไม่มีไวรัสลูกผสมหรือไฮบริดเกิดในไทย
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าขณะนี้พบผู้สงสัยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนรวม 11คนได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้ว 8 คน เหลือรอคอมเฟิร์มด้วยการตรวจหาพันธุกรรมของไวรัสทั้งตัว หรือการตัวโฮจีโนมฯ 3คน คาดว่า ภายใน 3 วันถึงจะทราบผล โดยรายที่คอนเฟิร์มว่าติดเชื้อโอไมครอน รายที่ 1 ชายอเมริกัน อายุ 35 ปี , รายที่ 2-3 เป็นล่ามหญิงไทยมาจากไนจีเรีย และรายที่ 4 ชายไทย อายุ 41 ทำงานที่ยูเอ็น กลับมาจากดีอาร์คองโก เนื่องจากเชื้อน้อยจึงรอตรวจซ้ำ ,รายที่ 5 เป็น ชายไทยอายุ 39 ปี มากจากไนจีเรีย ,รายที่ 6 ชายชาวโคลัมเบีย อายุ 62 ปีมาจากไนจีเรีย ขณะนี้นอนรักษาตัวใน รพ.ขณะนี้รอการตรวจยืนยันซ้ำ ,รายที่ 7 ชายชาวอังกฤษ เดินทางมาจากอังกฤษ ,รายที่ 8 ชายไทย อายุ 37ปี เดินทางมาจาก แอฟริกาใต้ ,รายที่ 9 ชายอเมริกัน อายุ 40 ปี เดินทางมาจากสหรัฐ และต่อเครื่องที่เกาหลีใต้ ,รายที่ 10 ชายชาวเบรารุส เดินทางมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ รายที่ 11 ชายชาวอังกฤษ เดินทางมาจากอังกฤษ เนื่องจากเพิ่มเดินทางมาถึง จึงต้องรอการตรวจยืนยัน
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ยันไม่ได้รับการยืนยันมีรายที่4,รายที่6 และรายที่ 11 โดยทั้งหมดนี้ เดินทางเข้ามาด้วยระบบ T&G 5คน,Sandbox 3คนและ ASQ 3คน ส่วนใหญ่พำนักและรักษาตัวใน กทม.9 คน และนนทบุรี และชลบุรี จังหวัดละ 1 คน อย่างไรก็ตามจากการตรวจเฝ้าระวังสายพันธุ์โอไมครอน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.- 10 ธ.ค.64 โดยได้มีการตรวจหาตำแหน่งพันธุกรรมSNP 4,797 คน และนำมาสู่กระบวนการตรวจโฮจีโนม ฯตรวจหาพันธุกรรมทั้งตัว 403 คน และได้รับการคอนเฟิร์ม ติดเชื้อโอไมครอน 403 คน และ รอผลการตรวจ 154 คน
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ส่วนความกังวลเรื่องของเชื้อไฮบริดที่จะเป็นลูกผสมระหว่างเชื้อ ขอยืนยันว่าขณะนี้ไทยยังไม่ได้มีเกิดขึ้น การจะเกิดเชื้อไฮบริดได้หมายความต้องเป็นการผสมกันระหว่างเชื้อไวรัสทั้ง 2 ตัวและก็ไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัวเสมอไปว่า เชื้อไวรัส ผสมรวมกันต้องรุนแรงและอันตรายเสมอไป แต่ก็ยังต้องติดตามเฝ้าระวังต่อไป พร้อมย้ำการกลายพันธุ์เป็นเรื่องปกติของเชื้อไวรัสและขณะนี้ก็มีการกลายพันธุ์จากเชื้อเดลตาไปหลายร้อยตัว แต่ตำแหน่งสำคัญพื้นฐานยังเหมือนเดิมก็ทำให้รู้ว่า เชื้อยังเหมือนตัวแม่ แต่มีลูกและมีที่มาจากตัวเดิม เหมือนอย่างเดลตาพลัส ในประเทศไทยก็ยังเคยพบ คนงานจาแคมป์ก่อสร้าง มีเชื้อไวรัส 2สายพันธุ์ในคนคนเดียวมาแล้ว ฉะนั้นก็ต้องเฝ้าระวังต่อไป .-สำนักข่าวไทย