กรมชลฯ เตรียมรับมือฝนตกหนัก 20-25 ม.ค.นี้

กรุงเทพฯ  20 ม.ค. – กรมชลประทานระบุจะมีฝนตกหนักในภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่วันที่ 20-25 มกราคมนี้ โดยส่งเครื่องสูบน้ำ 164 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 107 ลำออกไปปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน


นายเลิศชัย ศรีอนันต์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาวะอากาศระยะนี้ ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนอีกระลอกแผ่เสริมลงมาปกคลุมถึงประเทศเวียดนามตอนบนและทะเลจีนใต้และจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือในวันนี้ (20 ม.ค.) ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้วันที่ 20-21 มกราคม 2560 ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนวันที่ 22-25 มกราคม 2560 ภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

สำหรับ​สภาพฝนในพื้นที่ภาคใต้ มีฝนตกหนักเพิ่มในพื้นที่ตอนล่างของภาค ณ วันที่ 20 มกราคม ปริมาณฝนสูงสุดจังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอเมือง 34 มิลลิเมตร  จังหวัดตรัง อำเภอเมือง 21 มิลลิเมตร  จังหวัดสงขลา อำเภอหาดใหญ่ 74 มิลลิเมตร  จังหวัดปัตตานี  อำเภอหนองจิก 55  มิลลิเมตร และจังหวัดนราธิวาส มีฝนตกหนักถึงหนักมากในเขตอำเภอเมือง 272 มิลลิเมตร อำเภอยี่งอ 335 มิลลิเมตร  อำเภอเจาะไอร้อง 243 มิลลิเมตร และอำเภอระแงะ 271 มิลลิเมตร ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโก-ลกและคลองตันหยงมัสสูงขึ้น โครงการชลประทานนราธิวาส ได้รายงานสถานการณ์น้ำไปยังจังหวัดนราธิวาส เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำแล้ว


ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนใหญ่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือพื้นที่น้ำท่วมขังในบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระดับน้ำในแม่น้ำตาปีลดลงอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทานติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มบริเวณคลองบางกล้วยใหญ่และคลองพุนพิน เพื่อให้น้ำไหลไปลงแม่น้ำตาปีและออกสู่ทะเลได้เร็วขึ้น ปริมาณน้ำท่วมขังคงเหลือประมาณ 135 – 140 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายน้ำออกสู่ทะเลประมาณวันละ 50 – 60 ล้านลูกบาศก์เมตร หากฝนไม่ตกเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 4 – 6 วัน

​ขณะที่จังหวัดนครศรีธรรมราช คงเหลือพื้นที่น้ำท่วมขังในบริเวณลุ่มน้ำปากพนัง ปริมาณน้ำที่ท่วมขังคงเหลืออยู่ประมาณ 280 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีฝนตกลงมาอีก การระบายน้ำยังเร่งสูบออกอย่างต่อเนื่องวันละประมาณ 80 – 100 ล้านลูกบาศก์เมตร หากฝนไม่ตกเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ปกติภายใน 3 – 5 วัน  จังหวัดสงขลา ยังคงมีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำริมทะเลสาบสงขลา บริเวณอำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ และอำเภอสิงหนคร ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ  0.1 – 0.3 เมตร แนวโน้มลดลง คงเหลือปริมาณน้ำท่วมขังประมาณ 23 ล้านลูกบาศก์เมตร ศักยภาพการระบายน้ำได้วันละประมาณ 5 – 7 ล้านลูกบาศก์เมตร หากไม่มีฝนตกคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 – 4 วัน

​สำหรับเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งตามพื้นที่ต่าง ๆ ในภาคใต้ ปัจจุบัน 164 เครื่องที่ออกไปปฏิบัติการ ส่วนเครื่องผลักดันน้ำ 107 ลำที่ออกปฏิบัติการ และสถานีสูบน้ำอีก 10 สถานี ที่ทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพการระบายน้ำ ทั้งนี้ กรมชลประทานย้ำทุกโครงการชลประทานในภาคใต้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานสถานการณ์น้ำให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงทีต่อไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

“มาดามอ้อย” ยันไม่ยอมความ-เจรจา ปมเงิน 71 ล้าน

“มาดามอ้อย” เปิดใจครั้งแรก สบายใจหลังเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ยืนยันไม่ได้ให้เงิน 71 ล้านบาท โดยเสน่หา รับใจสลาย จะไม่ยอมความหรือเจรจา

กต.เผยหญิงไทยเสียชีวิต 1 ราย เหตุไต้ฝุ่นกองเร็ยถล่มไต้หวัน

ไต้ฝุ่นกองเร็ย คร่าชีวิตคนไทย 1 ราย ในไต้หวัน พบเป็นหญิงชาวสุโขทัย กต. แถลงเสียใจสุดซึ้งกับครอบครัว ย้ำประสานงานอย่างใกล้ชิด ย้ำ ก.แรงงาน แจ้งญาติเรียบร้อยแล้ว เผยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังโดยสารกับนายจ้าง