เพชรบูรณ์ 3 ธ.ค.-ตำรวจ สภ.หนองไผ่ ตามสะกดรอยภาพกล้องวงจรปิด บุกจับ 2 คนร้าย ตะเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือน งัดตู้เติมเงิน และตู้เติมน้ำมันหยอดเหรียญ ไม่เว้นแม้แต่กล้องวงจรปิด พบในเวลา 3 เดือน ก่อเหตุมาแล้วกว่า 40 คดี
วันที่ 3 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่ามา พ.ต.ท.ไพฑูรย์ เกศาอาจ สารวัตรสืบสวน สภ.หนองไผ่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน นำหมายศาล บุกเข้าทำการตรวจค้น บ้านหลังหนึ่ง ในหมู่ 6 ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ พร้อมจับกุมตัว นายสาโรจน์ อายุ 36 ปี เจ้าของบ้าน และนายสมรักษ์ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นญาติกัน โดยทั้ง 2 เป็นผู้ต้องหาก่อเหตุตะเวนลักทรัพย์ งัดตู้เติมเงิน และตู้เติมน้ำมันหยอดเหรียญ ไม่เว้นแม้แต่กล้องวงจรปิด แล้วนำไปโพสต์ขายในโซเชียล โดยในระยะเวลาเพียง 3 เดือน ก่อเหตุในพื้นที่ 4 อำเภอ ของ จ.เพชรบูรณ์ คือ อ.เมืองเพชรบูรณ์ อ.หนองไผ่ อ.บึงสามพัน และ อ.วิเชียรบุรี มาแล้ว จำนวนกว่า 40 คดี ได้พร้อมของกลางทั้งที่อยู่ในบ้าน และนำซากไปทิ้งน้ำจำนวนมาก อาทิ ทีวีจอแบน กล้องวงจรปิด ล้อแม็ก ยางรถยนต์ หมวกกันน็อก สว่านไฟฟ้า หินเจียร แท่นตัดไฟเบอร์ และซากตู้เติมเงินที่นำไปทิ้งน้ำ พร้อมรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีบรอนซ์ ที่ใช้เป็นยานพาหนะก่อเหตุ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองไผ่ เปิดเผยว่า ได้ทำการสืบสวนแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามจับกุม 2 คนร้ายรายนี้ มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งทราบว่า 2 คนร้ายดังกล่าวคือนายสาโรจน์ โพธิ์ศรี อายุ 36 ปี และนายสมรักษ์ วันทนา อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นญาติกัน จึงขอหมายศาล บุกเข้าทำการจับกุม ได้พร้อมของกลาง โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงเตรียมนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปส่งมอบให้ ร.ต.อ.กรเอก โภชนะสมบัติ พนักงานสอบสวน สภ.หนองไผ่ ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
นายสาโรจน์ หนึ่งในผู้ต้องหา เปิดเผยถึงสาเหตุที่ต้องออกมาตระเวนลักทรัพย์เพราะว่า ตกงานและมีภาระที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งครอบครัวลูกเมีย ต้องผ่อนรถจักรยานยนต์ และรถกระบะ จึงตัดสินใจออกมาตระเวนลักทรัพย์ เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว และผ่อนรถ 2 คัน ก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพขับรถแบ็กโฮ แต่พอโควิดระบาดทำให้ไม่มีงานทำ เพราะตนถูกเลิกจ้าง จึงชวนกันกับพวกที่ตกงานเหมือนกัน ออกตระเวนลักทรัพย์ทั่วไป เห็นที่ตรงไหนปลอดคนก็จะลงมือก่อเหตุทันที
ส่วนที่เลือกงัดแต่ตู้เติมเงินนั้น เพราะว่าจะได้เงินสดไปใช้จ่ายได้ทันที แต่ไม่ได้มีความรู้ความเชี่ยวชาญอะไรพิเศษ เป็นการลองผิดลองถูก ทดลองงัดดู ถ้าตู้ไหนส่งเสียงก็จะรีบหนีออกไปทันที.-สำนักข่าวไทย