สุราษฎร์ธานี 1 ธ.ค.-จ.สุราษฎร์ธานี ยังมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำตาปี ย้ำเตือนเฝ้าระวังน้ำระลอกใหม่จากนครศรีธรรมราช
เข้าสู่วันที่ 3 แล้ว หลังจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมฉับพลันใน 7 อำเภอ เดือดร้อนกว่า 9,000 ครัวเรือน ล่าสุดวันนี้ หลายพื้นที่ฝนหยุดตกแต่ท้องฟ้ายังมืดครึ้มทั้งวัน และยังมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำตาปี โดยเฉพาะที่ ม.5 บ้านคลองไร ต.พ่วงพรมคร อ.เคียนซา น้ำยังท่วมถนนสูงประมาณ 30 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ต้องใช้ไม้ทาสีแดงปักตามแนวน้ำท่วมเป็นสัญลักษณ์เพื่อให้ผู้สัญจรระมัดระวังไม่ให้ตกข้างทาง นอกจากนี้ยังมีสวนปาล์มถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง และยังมีบ้านหลายหลังถูกน้ำท่วม
ด้าน นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ พร้อมย้ำเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญตอนนี้ อย่าเพิ่งขนของลงจากที่สูงแม้ว่าฝนจะน้อยลงแล้วก็ตาม เพราะยังต้องเฝ้าประเมินปริมาณน้ำจากพื้นที่ต้นน้ำ จ.นครศรีธรรมราช ที่จะไหลลงพื้นที่ อ.พระแสง, เวียงสระ, เคียนซา ก่อนจะออกทะเลที่ อ.พุนพิน ขณะที่ทางจังหวัดได้ระดมเครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำในตอนนี้ให้มากที่สุด เพื่อเตรียมรองรับมวลน้ำก้อนใหม่ที่จะไหลเข้ามาสมทบ
ส่วนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช วันนี้ มีฝนตกๆ หยุดๆ ตลอดทั้งวัน และยังมีบางพื้นที่ที่ฝนยังตกหนัก แต่วันนี้ ชาวบ้าน ม.4 ต.เขาโร อ.ทุ่งสง ดีใจเป็นพิเศษ เพราะได้สะพานใหม่ มาทดแทนสะพานไม้ไผ่ที่ชาวบ้านทำกันเอง หลังจากเกิดน้ำหลากและซัดสะพานเก่าพังเสียหาย ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนกันมาก
สำหรับสะพานใหม่นี้ เป็นรถสะพาน MFB โดยทางหน่วยทหารค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 ได้นำมาติดตั้งแทนสะพานเก่า ซึ่งเป็นไม้ไผ่ที่ชาวบ้านทำกันเองไว้ข้ามคลองชั่วคราว แต่รถไม่สามารถผ่านได้ สร้างความดีใจให้กับชาวบ้านเพราะนอกจากจะแข็งแรงปลอดภัยแล้ว ยังสามารถให้รถผ่านสัญจรได้ด้วย
ขณะที่ทางจังหวัดยังเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง มีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมปฏิบัติหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย และได้ส่งเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายในพื้นที่ต่างๆ.-สำนักข่าวไทย