นครปฐม 1 ธ.ค.-ตำรวจแถลง คดีลอบวางเพลิงเผาโกดังน้ำมันบริษัทประภากรออยล์ เสียหายกว่า 40 ล้านบาท หลังวานนี้เค้นสอบ ผู้ต้องหาสารภาพลงมือเพราะแค้นเจ้าของที่ชอบดุด่า และยืนยันว่าทำคนเดียว ส่วนเจ้าของบริษัทยอมรับเคยด่าบ้าง แต่ไม่บ่อย
ที่สถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม วันนี้นักข่าวต่างแห่ไปรอฟังการแถลงข่าวผลการจับกุมนางสาวสิราสินี ศรียา อายุ 38 ปี หัวหน้าคลังสินค้า บริษัทประภากรออยล์ ที่ก่อเหตุวางเพลิงเผาโกดังน้ำมันเครื่อง รวมกว่า 1 แสนลิตร มูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 29 พฤศจิกายน ซึ่งขณะรอฟังแถลงตำรวจได้คุมตัวนางสาวสิราสินี ออกมาเพื่อสอบปากคำเพิ่ม ทำให้นักข่าวต่างกรูกันเข้าไปสอบถามถึงสาเหตุที่แท้จริงในการก่อเหตุ เพราะเมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) เจ้าตัวให้การกับตำรวจ โดยยอมรับลงมือเพราะโกรธแค้นที่เจ้าของชอบดุด่าเป็นประจำ แต่นางสาวสิราสินี ได้แต่เดินก้มหน้าผ่านสื่อ โดยไม่ตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น
ภายหลังการสอบปากคำเพิ่มเติมเสร็จสิ้น พลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำทีมแถลงผลการจับกุม โดยยืนยันว่านางสาวสิราสินี ให้การยอมรับลงมือทำเพราะโกรธแค้นที่ถูกเจ้าของดุด่าบ่อยครั้ง ส่วนที่เจ้าตัวยังอ้างว่าทำคนเดียวไม่มีใครเกี่ยวข้องด้วย ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และอยู่ระหว่างขยายผล รวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งคดีนี้ตำรวจมั่นใจดำเนินคดีกับนางสาวสิราสินี ได้อย่างแน่นอน ส่วนฐานความผิดในเบื้องต้น โทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต
นอกจากคำสารภาพ ตำรวจยังให้ข้อมูลเพิ่มว่า เจ้าของบริษัทประภากรออยล์ เคยให้การว่า ขณะเกิดเหตุมีพนักงาน 2 คน วิ่งฝ่าเข้าไปด้านใน กระชากกล่องบันทึกภาพทั้งหมดออกมาส่งให้ไว้เป็นหลักฐานกับตำรวจในการตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง ทำให้เป็นอีกหลักฐานว่า นางสาวสิราสินี อยู่ในที่เกิดเหตุเพียงลำพัง และนำไปสู่การเค้นสอบนางสาวสิราสินี เพราะตอนแรกเจ้าตัวที่เป็นคนเจ็บเพียงคนเดียวในที่เกิดเหตุ บอกกับตำรวจว่า ถูกคนร้ายที่เข้าไปลอบวางเพลิงใช้มีดฟันทำให้ได้รับบาดเจ็บ แต่ต้องยอมจำนนด้วยหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ที่แสดงให้เห็นว่า นางสาวสิราสินี ที่มีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าคลังสินค้า ได้ใช้กระดาษ A4 จุดไฟ แล้วหย่อนกระดาษที่ติดไฟใส่ลงไปในกล่องน้ำมันเครื่องขนาดแกลอน 5 ลิตรหลายจุด ก่อนไฟจะลุกไหม้โฟม และนางสาวสิราสินีก็วิ่งหนีออกมา
ขณะเดียวกันเจ้าของบริษัท ยอมรับเคยดุด่าว่าพนักงานจริง แต่ไม่เคยใช้คำหยาบคาบ หรือก้าวล่วงไปถึงบุพการี มีเพียงเสียงที่อาจดังไปบ้าง ส่วนที่อาจมีประเด็นเรื่องโกรธแค้นบริษัทไม่ให้ยืมเงิน ยืนยันปกติหากพนักงานในบริษัทมีปัญหาทางการเงิน บริษัทก็ให้ยืม แต่การตรวจสอบพบว่า นางสาวสิราสินี มีประวัติการใช้เงินผิดประเภท ทำให้บริษัทไม่อนุมัติการยืมเงิน ทำให้อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามไม่ขอพูดมากไปกว่านี้ ขอให้ตำรวจทำหน้าที่พิสูจน์ข้อเท็จจริง
ส่วนเรื่องผลกระทบที่เกิดจากการวางเพลิงเผาโกดังน้ำมันในครั้งนี้ ซึ่งมีทั้งบ้าน 50 หลัง ที่อยู่ในละแวกนั้น คราบน้ำมันที่ไหลลงคลองสาธารณะ ทำให้วันนี้ นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ไปประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัด และลงพื้นที่เกิดเหตุ และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พบว่าน้ำในคลองที่อยู่ติดกับที่เกิดเหตุมีสีดำ เหม็นน้ำมัน และมีคราบน้ำมันลอยเหนือผิวน้ำเป็นจำนวนมาก ส่วนรองผู้ว่าฯ นครปฐม ยืนยันว่า พื้นที่นี้เป็นพื้นที่สีส้มมีคนอยู่หนาแน่น ไม่สามารถขออนุญาตเป็นที่เก็บน้ำมัน เบื้องต้นได้ให้พลังงานจังหวัดนครปฐม ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว
ขณะที่ นายนพรุจ อึ้งประภากร กรรมการผู้จัดการบริษัท บอกว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้เข้าไปพูดคุยกับสาวหัวหน้าคลังสินค้าเลย ยอมรับว่า ยังไม่พร้อมส่วนเรื่องที่ถูกอ้างว่าก่อเหตุเพราะเจ้านายดุด่า ยืนยันครอบครัวทำธุรกิจมานานมีพนักงานเยอะ บางคนอยู่กันมาเป็น 20-30 ปี แค่นี้น่าจะบอกได้ว่า ครอบครัวทำงานกันอย่างไร และยืนยัน 10 ปี ที่หัวหน้าคลังสินค้ามือวางเพลิงทำงานกับบริษัท บริษัทไม่เคยมีปัญหาอะไรด้วยเลย ทำให้ไม่แทบไม่เชื่อว่า เธอจะเป็นคนลงมือทำกันได้.-สำนักข่าวไทย
