กรมวิทย์ ใช้เทคนิคพิเศษตรวจหา “โอไมครอน”

สธ. 29 พ.ย.-กรมวิทย์ฯ เตรียมพัฒนาน้ำยาโอไมครอนโดยเฉพาะ 2 สัปดาห์สำเร็จ ระหว่างนี้ใช้เทคนิคตรวจยืนยันจาก 2 น้ำยาทั้งอัลฟา และเบตา หากเป็นบวกทั้งคู่ แสดงว่าเป็นโอไมครอน เนื่องจากตำแหน่งของตรงกัน ทั้ง HV69-70deletion ในอัลฟา และ K417N ในเบตา

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงการตรวจหาสายพันธุ์ของโอไมครอน ว่า ปัจจุบันการตรวจหาเชื้อโควิดด้วย RT-PCR และ ATK ที่ได้รับการรับรองจาก อย. ยังสามารถใช้ตรวจโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์อะไร แต่หากจะมีการตรวจแบบจำแนกสายพันธุ์ ว่าเป็นอัลฟา เบตา เดลตา ในปัจจุบันเนื่องจากยังไม่มีชุดน้ำยาตรวจของโอไมครอนโดยเฉพาะ ต้องอาศัยการตรวจพันธุกรรมแบบทั้งตัว (whole genome Srquencing ) ใช้เวลา 7 วัน ถึงทราบผล ดังนั้นกรมวิทย์ จึงเตรียมพัฒนาน้ำยาตรวจแยกสายพันธุ์ โดยเฉพาะคาดว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์จึงจะสำเร็จ ระหว่างนี้ใช้เทคนิคการตรวจแยก จากน้ำตรวจโดยเฉพาะ 2 สายพันธุ์ คือ อัลฟา และเบตา ไปก่อน หากตรวจพบเป็นบวกตรงกันทั้งคู่ แสดงว่าเป็นโอไมครอน โดยได้ประสานศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ทั้ง 15 ศูนย์ให้ใช้เทคนิคการตรวจนี้ เพื่อค้นหาแยกเชื้อโอไมครอน


นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า สำหรับเทคนิคการตรวจหาเชื้อด้วยวิธีดังกล่าว เนื่องจากตำแหน่งที่ใช้ยืนยัน ว่าเป็นโอโมครอน พบตำแหน่งของยีนส์ที่ตรงกันในอัลฟาคือ HV69-70deletion ส่วนในเบตา คือตำแหน่งที่ K417N และยังเป็นตำแหน่งที่ตรงกันในเดลตาพลัสอีกด้วย ซึ่งการใช้เทคนิคนี้ จะช่วยให้การตรวจยืนยันหาโอไมครอนมีความรวดเร็ว ก่อนที่จะมีการพัฒนาน้ำยาตรวจสำเร็จ สำหรับการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ต้องมีการตรวจยืนยันมากกว่า 1 ขึ้นไป มากว่า 1 ตำแหน่ง และหากไม่พบ ต้องไม่พบทุกตำแหน่ง ส่วนข้อกังวลเรื่อง ATK ที่ผ่าน อย.รับรอง 104 ยี่ห้อ ในจำนวนนี้มี 2 ยี่ห้อเท่านั้นที่ตรวจตำแหน่งของสไปร์ทไปรตีน ซึ่งหากเชื้อมีการกลายพันธุ์ที่ไสร์ทโปรตีน อาจตรวจไม่เจอนั้น เรื่องนี้จะได้ประสานทางผู้นำเข้า พร้อมติดตามข้อมูลรายละเอียดจากต่างประเทศ

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ขณะนี้เพื่อความมั่นใจในมาตรการป้องกัน ได้นำผู้ที่เดินทางเข้าไทยและมีผลเป็นบวกมากตรวจแยกหาพันธุกรรมอีกครั้ง เพื่อความมั่นใจว่าเป็นโอไมครอนหรือไม่ และมีการรายงานต่อ GISAID เบื้องต้นการตรวจหาเชื้อในผู้เดินทางเข้าไทยตั้งแต่ 1 พ.ย.64 จำนวน 75 ตัวอย่าง 45 ตัวอย่าง พบเป็นเดลตา.-สำนักช่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ปล่อยตัว “แซม ยุรนันท์” สวมกอดครอบครัว ขอกลับบ้านก่อน

“แซม ยุรนันท์” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว สวมกอดครอบครัวด้วยสีหน้ามีความสุข พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาต้อนรับ ขอกลับบ้านก่อน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

จับแล้วมือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ย่านบางลำพู

“ผู้การจ๋อ” ส่ง “สารวัตรแจ๊ะ” นำทัพสืบ บช.น. ร่วมตำรวจกัมพูชา แกะรอยบุกจับ “จ่าเอ็ม” มือยิง “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถึงพระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีดิไอคอน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี “ดิไอคอน” เปิดใจขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทัณฑสถานหญิง ดูแลเป็นอย่างดี ยืนยันบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้ว

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้