เร่งสางคดียิงถล่มอดีต ผจก.ธนาคาร 14 นัดดับ

สระบุรี 21 ต.ค.-ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีคนร้ายกระหน่ำยิง อดีตพนักงานธนาคาร 14 นัด เสียชีวิตหน้าบ้าน ที่สระบุรี มุ่งประเด็นเรื่องนิสัยส่วนตัว และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์


จากกรณีนายสมเพ็ญ ปุณณรัตนกุล อายุ 58 ปี หรือ เสี่ยเปี๊ยก ถูกยิงเสียชีวิตในซอย 19 ถนนพิชัยรณรงค์สงคราม ต.ปากเพรียว อ.เมือง สระบุรี คืนวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา ใกล้กันพบปลอกกระสุนตกอยู่ 14 ปลอก

สอบสวนหลานสาวผู้ตายให้การว่า นายสมเพ็ญ หรือ “ลุงเปี๊ยก” เคยเป็นผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่งก่อนลาออก และทำธุรกิจรับฝากขาย, จำนองบ้าน และที่ดิน รวมถึงปล่อยเงินกู้ มีฐานะค่อนข้างมั่นคง และมีเงินฝากในสหกรณ์ครูแห่งหนึ่งนับสิบล้านบาท ภรรยาเก่าเสียชีวิต แต่ปัจจุบันมีภรรยาคนใหม่ ซึ่งภรรยาเพิ่งเดินทางกลับไปบ้านเกิด เพราะมีคนในครอบครัวป่วย นิสัยส่วนตัวไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่เป็นคนพูดจาเสียงดัง


ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ไปเล่นบาสเกตบอลและเพิ่งกลับมารับประทานอาหาร และเดินออกกำลังกายในซอยห่างจากบ้าน 50 เมตร จากนั้นปรากฏว่าได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัด ก่อนจะมีคนตะโกนแจ้งว่านายสมเพ็ญถูกยิง

ด้านนายภาคภูมิ ปุณณรัตนกุล อายุ 33 ปี ลูกชายผู้ตาย เผยว่า ปกติพ่อไม่เคยมีปัญหากับใคร ส่วนตัวแล้วหากพ่อมีปัญหาอะไร จะเล่าให้ลูกฟังเสมอ แต่ก่อนถูกคนร้ายยิงตาย พ่อไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง แต่น้องสาวเล่าให้ตนเองฟังว่า พ่อเคยคุยโทรศัพท์ กับเจ้าของโฉนดที่มาให้พ่อ หานายทุนเพื่อจำนองโฉนดที่ดิน ซึ่งอาจเป็นได้ พ่ออาจถูกยิงด้วยเหตุนี้ก็ได้

ล่าสุดช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (20 ต.ค.) พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ รองผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี พร้อม พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผู้กำกับ สภ.เมืองสระบุรี และชุดสืบสวน สภ.เมืองสระบุรี เข้าประชุมหาเบาะแสคนร้าย


พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ กำกับ สภ.เมืองสระบุรี เผยว่า ทางคดีคืบหน้าไปมาก โดยชุดสืบสวนภาค 1 พร้อมทั้งชุดสืบสวนจังหวัด และชุดสืบสวน สภ.เมืองสระบุรีได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุและใกล้เคียงเพื่อหาเบาะแส และพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งวัตถุพยานในจุดเกิดเหตุและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เก็บได้นำไปตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อเชื่อมโยงคนร้าย ซึ่งคาดว่าเกี่ยวพันกับเรื่องเงิน หรือธุรกิจที่ผู้ตายทำ อีกทั้งนิสัยส่วนตัวของผู้ตายที่มีลักษณะพูดจาเสียงดังโผงผาง ส่วนอาวุธที่คนร้ายใช้ เป็นอาวุธปืนออโตเมติก ขนาดปลอกกระสุน .45 หรือ 11 มม. กระหน่ำยิงผู้ตายกว่า 10 นัด

ส่วนประเด็นชู้สาว ทางตำรวจยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยง แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้ง ซึ่งเบาะแสคนร้าย ทางตำรวจมุ่งประเด็น 2 ประเด็น โดยให้น้ำหนัก ประเด็นเรื่องนิสัยส่วนตัวของผู้ตายและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสเงื่อนงำบางอย่างแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเชื่อมโยงผู้ก่อเหตุเพื่อคลี่คลายคดีนี้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว