ชัยภูมิ 30 ก.ย. – อธิบดีกรมชลประทาน เผยโครงการชลประทานใน จ.ชัยภูมิ ระดมเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ เร่งระบายน้ำที่ท่วมมากถึง 16 อำเภอ ตามข้อสั่งการของนายกฯ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากที่สุด รวมถึงจัดการจราจรน้ำชี-มูล เพื่อไม่ให้น้ำปริมาณมากไหลมาในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ระบายลงแม่น้ำโขงได้ช้า
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สั่งการให้สำนักงานชลประทานที่ 6 นำเครื่องสูบน้ำเข้าติดตั้งจุดต่างๆ ในจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นบริเวณที่ระดับน้ำลดต่ำลง จนสามารถสูบระบายได้แล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ระดับน้ำท่วมสูงมาก ท่วมเครื่องสูบน้ำ จึงเดินเครื่องไม่ได้
จังหวัดชัยภูมิ ยังคงมีน้ำท่วมขัง 16 อำเภอ ส่วนในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ที่มีน้ำเต็มความจุเก็บกัก ได้แก่ เขื่อนลำปะทาว (ล่าง) ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน มีน้ำ 18.68 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 114% ของความจุอ่างฯ แนวโน้มลดลง มีน้ำล้นอาคารระบายน้ำล้นสูง 46 เซนติเมตร และอ่างเก็บน้ำลำคันฉู มีน้ำ 47.26 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 110% ส่งผลกระทบพื้นที่ด้านท้ายอ่างฯ โดยน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมที่ลุ่มต่ำ จึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 8 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 8 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่แล้ว
นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เปิดเผยว่า ได้นำเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 7 เครื่อง ติดตั้งบริเวณถนนเลี่ยงเมืองชัยภูมิ 3 เครื่อง สะพานกุดแคน 2 เครื่อง และสะพานกุดจาน 2 เครื่อง สามารถสูบระบายน้ำได้ในอัตรา 100,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน
นอกจากนี้ ยังติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 8 เครื่อง ที่สะพานข้ามลำปะทาว ถนนเลี่ยงเมืองชัยภูมิ ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำได้ในอัตรา 750,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน หากปริมาณน้ำที่ท่วมขังลดระดับลงกว่านี้ จะนำเครื่องจักร-เครื่องมือ ซึ่งเตรียมพร้อมไว้ที่จังหวัดขอนแก่น เข้ามาช่วยเร่งระบายน้ำในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ตามข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ชาวชัยภูมิกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วที่สุด.- สำนักข่าวไทย