สมุทรปราการ 20 ก.ย. – นายก อบต.ราชาเทวะ ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทุจริตจัดซื้อรถดับเพลิงปี 55 อาจมีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบต.ในเดือน พ.ย.นี้ ได้อีกครั้ง หากการดำเนินการสั่งถอดถอนพ้นจากตำแหน่งไม่แล้วเสร็จภายใน 30 วัน เนื่องจากมีการอ้างขอให้ทบทวนมติชี้มูลของ ป.ป.ช. ตามมาตรา 99 ของ พ.ร.บ.ป.ป.ช.
นายสาจิต จันทรศิริ ผู้อำนวยการกลุ่มงานกฎหมาย ระเบียบ และเรื่องร้องทุกข์ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยขั้นตอนทางกฎหมายการถอดถอนนายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ ออกจากตำแหน่ง ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดฐานทุจริตจัดซื้อรถดับเพลิงกู้ภัยของ อบต. ช่วงปี 2555 ว่า อาจจะไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ได้รับสำนวนไต่สวนจาก ป.ป.ช. หากนายทรงชัย ใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 99 ขอให้ ป.ป.ช. ทบทวนมติชี้มูลความผิด โดยอ้างว่ามีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานใหม่ อันแสดงได้ว่าตนไม่ได้มีการกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา
“ตามปกติเมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเสร็จเรียบร้อยแล้ว นายอำเภอก็จะต้องดำเนินการสอบสวน แล้วเสนอมาที่ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อมีคำสั่งให้ผู้ถูก ป.ป.ช.ชี้มูล พ้นจากตำแหน่งภายใน 30 วัน แต่เนื่องจาก พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 99 บัญญัติให้สิทธิในเรื่องการขอทบทวนมติ ป.ป.ช.ได้ ถ้านายก อบต.ราชาเทวะ ขอทบทวนตามมาตรา 99 นั่นก็หมายความว่า การดำเนินการเพื่อให้นายก อบต.ราชาเทวะ พ้นจากตำแหน่ง จะไม่แล้วเสร็จภายใน 30 วัน เพราะว่าต้องรอผลการสอบสวนใหม่” ผอ.กลุ่มงานกฎหมายฯ กล่าว
ส่วนผู้ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ จะสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบต.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 พ.ย.นี้ ได้หรือไม่นั้น นายสาจิต กล่าวว่า ถ้าในกรณีผู้ว่าฯ มีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งแล้ว ก็จะมีผลทำให้ผู้นั้นขาดคุณสมบัติในการลงสมัครเลือกตั้ง อบต. แต่ถ้าเป็นกรณีผู้ถูกกล่าวหาใช้สิทธิทบทวนตามมาตรา 99 พ.ร.บ.ป.ป.ช. หรือกรณีที่ผู้ว่าฯ ยังไม่มีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง ก็ถือว่าผู้นั้นไม่ขาดคุณสมบัติ และสามารถลงสมัครเลือกตั้งได้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากการมีคำสั่งให้นายทรงชัย พ้นจากตำแหน่งนายก อบต.ราชาเทวะ ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันดังกล่าว ก็อาจจะขัดกับแนวทางปฏิบัติที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือเวียนแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ถือปฏิบัติตามหนังสือ ที่ มท 0804.3/ว 51 ลงวันที่ 5 มกราคม 2564 เกี่ยวกับการสั่งให้ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ประธานสภาท้องถิ่น หรือรองประธานสภาท้องถิ่น พ้นจากตำแหน่ง สืบเนื่องจากกรณีถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่
โดยกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดแนวทางปฏิบัติว่า เมื่อ ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 98 วรรคสี่ ในกรณีขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ให้นายอำเภอพิจารณาตามฐานความผิดตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติ โดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่ให้ใช้สำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นสำนวนการสอบสวน แล้วทำความเห็นและรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาและสั่งให้พ้นจากตำแหน่งภายใน 30 วัน. – สำนักข่าวไทย