ทลายเว็บพนันรายใหญ่ ยึดทรัพย์กว่า 100 ล้าน

กทม. 1 มี.ค. – ตร.ไซเบอร์ ทลายเว็บพนันรายใหญ่ ยึดทรัพย์กว่า 100 ล้าน พบมีเงินหมุนเวียนต่อปีกว่า 240 ล้านบาท


กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) – 1 มีนาคม 2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.ธีระ เชื้อสุวรรณ ผกก.4 บก.สอท.5 ร่วมกันแถลงผลทลายเว็บพนันรายใหญ่ พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 240 ล้านบาทต่อปี ตรวจยึดทรัพย์กว่า 100 ล้านบาท อาทิ เงินสด ทองคำ เครื่องประดับหรูอีกจำนวนมาก

สืบเนื่องจาก กก.4 บก.สอท.5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการลักลอบเปิดเว็บไซต์การพนันออนไลน์ เครือข่ายเบทฟลิกซ์กัน (betflixgun) ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปสมัครเป็นสมาชิกและเข้าเล่นพนันออนไลน์จนเกิดการเสียทรัพย์สินกันจริง ต่อมา พ.ต.อ.ธีระ เชื้อสุวรรณ ผกก.4 บก.สอท.5 ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดร่วมกันสืบสวนจนพบว่าเครือข่ายเว็บพนัน ดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนนับ 20 ล้านบาทต่อเดือน และอาจสูงถึง 240 ล้านบาทต่อปี จึงร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐาน จนศาลอาญารัชดาออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้เบื้องต้น จำนวน 12 คน


จากนั้นวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 15.00 น. ตำรวจไซเบอร์ได้ขอหมายค้นจากศาลเข้าตรวจค้นเป้าหมายพร้อมกัน 3 จุด ดังนี้

จุดที่ 1 บ้านหลังหนึ่ง ย่านถนนสรรพาวุธ แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ ตรวจยึดธนบัตรไทย ฉบับละ 1,000 บาท รวมมูลค่า 7,260,000 บาท เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ และวัตถุคล้ายทองคำ และพระเลี่ยมทอง จำนวนหลายรายการ ซึ่งคาดว่ามีมูลค่านับร้อยล้านบาท

จุดที่ 2 บ้านหลังหนึ่ง ในซอยพัฒนาการ 38 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ตรวจยึดธนบัตรไทยฉบับละ 1,000 บาท รวมมูลค่า 3,300,000 บาท, โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง, เครื่องคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊คและอุปกรณ์ส่วนควบ 5 เครื่อง, สมุดบัญชีเงินฝาก, บัตรกดเงินสด หลายรายการ, รถยนต์ 1 คัน มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท และทรัพย์สินคล้ายทองคำแท่ง กำไลทอง แหวนเพชร และอื่นๆ ซึ่งคาดว่ามีมูลค่านับ 10 ล้านบาท


จุดที่ 3 ห้องพักในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 3 ซอยร่วมจิตรพัฒนา เทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ ได้ตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ 10 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง, เครื่องส่งสัญญาณไวไฟ เราเตอร์ 6 เครื่อง, กล้องวงจรปิดและอื่นๆ อีกหลายรายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดกว่า 100 ล้านบาท

ตำรวจไซเบอร์ยังได้จับกุมบุคคลซึ่งทำหน้าที่ “แอดมิน” ในการให้บริการลูกค้าเว็บพนันออนไลน์ของ betflixgun 5 คน และได้จับกุมตัวนายกิตติศักดิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา รัชดา ที่ 1331/2568 ลง 26 ก.พ.68 ในข้อหา ร่วมจัดให้มีการเล่นการพนันและร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งมีหน้าที่กดถอนเงินสด โดยสามารถควบคุมตัวได้ขณะกำลังถอนเงินที่หน้าตู้ ATM ในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นหนึ่งในการปฏิบัติการตามนโยบายของตำรวจไซเบอร์ ตั้งแต่รับตำแหน่งมาได้จัดตั้งสายตรวจตำรวจไซเบอร์ เพื่อรับเรื่องร้องเรียนทั้งเว็บการพนัน เว็บการกู้เงิน เว็บไซต์หลอกลวงต่างๆ ฯลฯ ซึ่งแต่ละสัปดาห์จะมีการคัดเลือกเว็บไซต์ ผิดกฎหมายจำนวน 25 เว็บ เพื่อทำการตรวจสอบ ที่ผ่านมาพบเว็บไซต์ผิดกฎหมายไปแล้ว 310 เว็บไซต์ ในครั้งนี้สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 6 ราย และตรวจยึดทรัพย์สินเป็นเงินสด 10,500,000 บาท วัตถุคล้ายทองคำแท่ง 10 แท่ง น้ำหนักรวม 25 บาท พระเครื่อง นาฬิกาแบรนด์เนม สมุดบัญชี 18 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 85 ใบ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท โดยนำเงินที่ได้จากเว็บพนันมาเปลี่ยนแปลงเป็นวัตถุมงคล ทองคำแท่ง เครื่องประดับ ส่วนจะมีการเทรดเป็นเงินคริปโตด้วยหรือไม่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยืนยันว่าตำรวจไซเบอร์จะทุ่มเทการทำงานอย่างเต็มที่

พ.ต.อ.ธีระ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเว็บไซต์นี้เปิดมา 5 ปี มีบอสใหญ่เป็นคนไทย โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ให้การรับสารภาพ เคสนี้หลังได้รับเบาะแสได้สืบสวนใช้ระยะเวลานานมากกว่าเคสอื่นๆ เนื่องจากว่ากลุ่มกระบวนการนี้มีการระมัดระวังในการไปกดเงินตามสถานที่ต่างๆ มีการย้ายเปลี่ยนสถานที่ทุก 2 เดือน

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลาง พร้อมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.5 ดำเนินคดีตามกฎหมาย และขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทุกประเภทได้จับกุมเพิ่มขึ้น 337 คดี คดีการพนันออนไลน์จับกุมเพิ่มขึ้น 298 คดี รวมจับกุมคดีเพิ่มขึ้น 635 คดี ส่วนการปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายตั้งแต่ พ.ย.67-ม.ค.68 เสนอให้มีการปิดกั้นเพิ่มขึ้น 9,394 url ส่วนการรับคดีปี 2564 มีการทำสำนวน 102 คดี สั่งฟ้องทั้งหมด 102 คดี, ปี 2565 มี 712 คดี สั่งฟ้อง 658 คดี สั่งไม่ฟ้อง 1 คดี, ปี 2566 มี 1778 คดี สั่งฟ้อง 974 คดี สั่งไม่ฟ้อง 1 คดี, ปี 2567 มี 1408 คดี สั่งฟ้อง 520 คดี และปี 2568 (ถึง 20 ก.พ.68) มี 1226 คดี สั่งฟ้อง 21 คดี.-419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]