“รถยนต์ชนรถถัง” ณัฐวุฒิ นัดคาร์ม็อบ 19 กันยา

ณัฐวุฒิ นัดคาร์ม็อบ 19 กันยา ขับรถยนต์ชนรถถังจากแยกอโศก-อนุสาวรีย์ ปชต.ชูเป้าขับไล่ ประยุทธ์  ย้ำไม่ได้ประกาศเผชิญหน้าตำรวจ ชี้ มีสัญญาณผู้มีอำนาจใช้กำลังกับม็อบดินแดง วอนรัฐบาลอย่าทำแบบนี้


กทม.17ก.ย.64-นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ในฐานะเครือข่ายไล่ประยุทธ์ แถลงข่าวกิจกรรมคาร์ม็อบ œ19 กันยา ขับรถยนต์ชนรถถัง (แยกอโศก – อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย) ว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพียงแค่รำลึกการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 แต่ต้องการที่จะเน้นย้ำให้เห็นถึงการทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จนถึงการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 และการสืบทอดอำนาจโดยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา ในปัจจุบันเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะเกิดขึ้นจากขบวนการอำนาจนอกระบบที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลเลือกตั้งและตีกรอบอำนาจอธิปไตยของประชาชนให้เป็นไปตามที่ต้องการ  ดังนั้น การที่จะรำลึกเหตุการณ์ดังกล่าวจึงหมายถึงการแสดงการไม่ยอมรับ ต่อต้านและขับไล่อำนาจรัฐในปัจจุบัน ซึ่งการรัฐประหารเป็นการทำซ้ำซากแบบเดียวกันทั้งกันยายน 2549 และพฤษภาคม 2557 โดย สังคมไทยตกอยู่ใต้ความอัปยศนี้ 15 ปี  ดังนั้นการออกมาร่วมขบวนคาร์ม็อบในครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงการแสดงพลังเพื่อต่อต้านรัฐประหารเท่านั้น แต่เป็นการแสดงให้ประชาชนผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ตลอด 15 ปี ได้รับทราบว่า ยังมีฝ่ายประชาธิปไตยยังคงสู้อยู่ และยังคงมุ่งมั่นที่จะนำพาประเทศกลับคืนสู่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แม้ว่าจะเป็นความยากลำบากและเต็มไปด้วยอุปสรรคอันตราย

ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิยังฝากไปยังผู้มีอำนาจว่า กิจกรรมนี้ตรงไปตรงมาว่าไม่ยอมรับและพร้อมขับไล่พลเอกประยุทธ์  ไม่ได้ประกาศการเป็นศัตรูกับรัฐไทย ไม่ได้ประกาศการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานใด ดังนั้น จึงหวังว่าจะได้รับความร่วมมือและการอำนวยความสะดวก รวมถึงดูแลความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่รัฐ  โดยในวันที่ 19 กันยายนน  เวลา 14.00 น. พร้อมกันที่แยกอโศกและเริ่มเคลื่อนขบวน ไปตามเส้นทางที่กำหนดจนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และมีกิจกรรมแสดงเชิงสัญลักษณ์ให้ทั้งโลกได้เห็นว่าประเทศไทยถูกคลุมถุงดำมาแล้ว 15 ปี และกิจกรรมขับรถยนต์ชนรถถังด้วย คาดว่ากิจกรรมจะแล้วเสร็จไม่เกิน 18.00 น. ยืนยันว่า จะไม่ออกนอกเส้นทาง เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่


นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงการชุมนุมที่แยกดินแดงที่ยังคงมีความรุนแรงอยู่ในขณะนี้ว่า มีสัญญาณบางอย่างว่าผู้มีอำนาจใช้กำลังกับผู้ชุมนุม จึงอยากส่งเสียงไปถึงรัฐบาลว่าอย่าได้ทำเช่นนี้ การสูญเสียของเยาวชนหรือประชาชนนั้นไม่ใช่ทางออกและไม่สามารถทำให้สังคมไทยออกจากความขัดแย้งได้ และขอให้ผู้ชุมนุมประเมินสถานการณ์อย่างละเอียด คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองและคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ตนไม่สามารถชี้นำการเคลื่นไหวที่แยกดินแดงได้ เพราะมองว่าพื้นที่นั้นเป็นการเคลื่อนไหวเฉพาะของผู้จัดการชุมนุมที่นั่น.-สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง