อุบลราชธานี 15 ก.ย. – รวบแล้วมือฆ่ารัดคอลูกสาวนายจ้างเสียชีวิตคาห้องนอนในบ้าน อ้างเคยคบหากันมาก่อน แล้วแอบปีนเข้าไปหา ก่อนมีปากเสียงและลงมือก่อเหตุ
เหตุฆาตกรรมโหดรายนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (14 ก.ย.) โดยตำรวจ สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เข้าตรวจสอบบ้านพักชั้นเดียว ซึ่งเปิดเป็นร้านเกม ในพื้นที่บ้านท่าบ่งมั่ง ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ในห้องนอนพบร่างหญิงสาวอายุ 26 ปี เสียชีวิตอยู่บนที่นอน มีผ้าห่มคลุมปิดหน้าไว้ มีสายชาร์จโทรศัพท์สีชมพูรัดรอบลำคอ ใบหน้าม่วงคล้ำ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 4-6 ชั่วโมง และยังพบผ้าอนามัยใช้แล้วตกอยู่บนที่นอน 1 แผ่น ข้าวของถูกรื้อค้นกระจาย มีโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเงิน และเอกสารของผู้ตายหายไป เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.อุบลราชธานี เข้าเก็บตัวอย่างคราบเลือด รอยนิ้วมือแฝง และ DNA ในที่เกิดเหตุ
นายยรรยง หารบำราช อายุ 31 ปี พี่เขยของน้องวิว เปิดเผยว่า บ้านที่เกิดเหตุอยู่กัน 4 คน มีน้องวิว แม่น้องวิว ภรรยา และตนเอง รวม 4 คน ช่วงเวลา 08.00 น. ภรรยาของตนเข้าไปปลุกน้อง เพื่อไปทำงานที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในตัวอำเภอวารินชำราบ แต่เรียกแล้วไม่มีเสียงตอบ จึงมาตามตนให้เข้าไปดูที่หน้าต่างห้องนอน ซึ่งถูกเปิดไว้ เมื่อเปิดผ้าม่านเข้าไป พบผ้าห่มคลุมหน้าน้อง พยายามเรียกแต่ไม่ตอบ จึงปีนหน้าต่างเข้าไปเปิดผ้าห่ม พบน้องถูกสายชาร์จโทรศัพท์รัดคอจนหน้าคล้ำ ไม่สวมเสื้อผ้า จึงเรียกภรรยาและแม่น้องวิวเข้ามาดู และนำเสื้อผ้ามาใส่ให้ ก่อนตำรวจมาถึง เชื่อว่าเกิดเหตุช่วงตี 2-ตี 5 เพราะตนเองเข้านอนตอนตี 1 ยังปกติดี ส่วนผู้ต้องสงสัยคาดว่าน่าจะเป็นนายทศพล พรบูลย์ อายุ 27 ปี หรือ ดิว พนักงานดูแลร้านเกม ซึ่งเคยพักอาศัยที่ร้าน แต่ช่วงโควิดร้านปิด ได้ให้พักอาศัยที่ร้านมา 6-7 เดือน หลังเกิดเหตุก็หายไปพร้อมกับรถจักรยานยนต์ สีแดง-ขาว ทะเบียน 1 กก 1370 อุบลราชธานี เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวเก็บหายไปหมด กล้องวงจรปิดถูกถอดปลั๊กหันหน้าหนี ส่วนสาเหตุไม่แน่ใจว่า นายทศพล ต้องการทรัพย์สิน หรือต้องการข่มขืน เพราะเสื้อผ้าถูกถอด และทรัพย์สินหายไปหลายรายการ
ชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี และชุดสืบสวน สภ.วารินชำราบ เร่งสืบสวน โดยจัดชุดติดตามกล้องวงจรปิดในหมู่บ้าน เส้นทางที่คาดว่านายทศพลจะใช้หลบหนี และกดดันตามบ้านเพื่อนสนิทของนายทศพล ต่อมาช่วงค่ำ พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ ที่นายทศพลขี่หลบหนีออกจากบ้านเกิดเหตุ จอดทิ้งไว้ข้างโรงสีแห่งหนึ่งใน อ.สว่างวีระวงศ์ จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนร่างของน้องวิว ที่ถูกส่งไปให้แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจังหวัดศรีสะเกษ ตรวจพิสูจน์ กลับมาถึงบ้านที่เกิดเหตุ ในเวลา 18.00 น. โดยมีนางจันทร์ สีสด อายุ 53 ปี มารดา รอรับร่างไร้วิญญาณของลูกสาว เพื่อจุดธูปเชิญวิญญาณ ก่อนนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบูรพา บ้านจิกเทิง หมู่ 1 ต.จิกเทิง อ.ตาลสุม ซึ่งเป็นบ้านเกิดของครอบครัว โดยงานสวดอภิธรรมคืนแรกเป็นไปอย่างเรียบง่าย ขณะที่ครอบครัวอยู่ในอาการโศกเศร้า โดยจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 วัน ก่อนฌาปนกิจในวันที่ 16 กันยายนนี้
หลังเร่งติดตาม ในที่สุดก็สามารถจับกุมนายทศพล หรือ ดิว พรบูลย์ อายุ 27 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุได้ เมื่อเวลา 23.00 น. วานนี้ (14 ก.ย.) โดยจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.พิบูลมังสาหาร เนื่องจากมีคนจำได้ว่าเป็นคนร้าย จึงแจ้งตำรวจ ก่อนจะถูกคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.วารินชำราบ
นายทศพล รับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่าน้องวิวจริง หลังก่อเหตุได้เก็บทรัพย์สินของตัวเอง และเงินจากกระเป๋าสตางค์ของผู้ตาย ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมาจอดเสียอยู่ข้างโรงสี อ.สว่างวีระวงศ์ จึงทิ้งรถจักรยานยนต์ และขึ้นรถโดยสารประจำทางมาเปิดห้องพักที่รีสอร์ตชานเมือง อ.พิบูลมังสาหาร เจ้าตัวอ้างว่า รู้จักกับผู้ตายเมื่อ 4-5 ปีก่อน ที่ผับแห่งหนึ่งของจังหวัด และคบหาเป็นแฟนกัน โดยคนทางบ้านไม่รู้ ก่อนที่น้องวิวจะไปทำงานที่ จ.ระยอง ต่อมานายทศพล ได้หวนมาเล่นเกมที่ร้านแม่ของผู้ตาย ก่อนเข้ามาเป็นลูกจ้างช่วยดูแลร้านอยู่นานเกือบ 1 ปี กระทั่งเกิดโควิดและร้านถูกสั่งปิด แต่ทางบ้านก็ยังอนุญาตให้นายทศพล พักอยู่ที่ร้านเกม ซึ่งอยู่ติดกับบ้านที่เกิดเหตุ
และช่วง 3 เดือนก่อน ผู้ตายออกจากงานที่ จ.ระยอง กลับมาทำงานอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี จึงแอบคบหากันอีก โดยคนทางบ้านผู้ตายไม่ทราบ ส่วนคืนวันเกิดเหตุได้ปีนเข้าไปหาผู้ตายทางหน้าต่าง และมีความสัมพันธ์กัน ก่อนจะมีเรื่องต่อว่าต่อขานที่ต่างฝ่ายต่างคบหาเป็นแฟนกับคนอื่นไปด้วย ตนรู้สึกโกรธ จึงใช้มือบีบคอและใช้หมอนกดหน้า เพื่อให้หยุดพูด และไม่ให้ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากคนในบ้าน จนขาดอากาศหายใจเสียชีวิต
ส่วนที่พบสายชาร์จโทรศัพท์พันอยู่รอบคอของผู้ตาย นายทศพล อ้างว่า ทีแรกตั้งใจจะใช้สายชาร์จรัดคอผู้ตาย แต่ไม่ถนัด จึงใช้มือบีบคอ ใช้หมอนกดหน้า และใช้เข่ากดแขนของคนตาย เพื่อไม่ให้ต่อสู้ ยอมรับรู้สึกเสียใจที่พลั้งมือจนผู้ตายเสียชีวิต แต่จะไม่ไปขอขมาศพ เพราะกลัวตัวเองได้รับอันตราย
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา หลบหนีการจับกุมโดยใช้ยานพาหนะ และลักทรัพย์. – สำนักข่าวไทย
