กรุงเทพฯ 13 ก.ย.-บางจากฯปรับตัวลดพอร์ตน้ำมันรับ”Carbon neutral” เหลือร้อยละ60-70ใน5ปีข้างหน้า.เร่งสรุปร่วมทุนESSในไทยเร็วๆนี้.คาดหลังคลายล็อกดาวน์ปีนี้รายได้ทำนิวไฮ
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่าบอร์ดบางจากฯเห็นชอบวิสัยทัศน์ในอนาคต”Mission 2026 100X” ด้วยการวางแผนถึงปี 2569 เพื่อเป็นบริษัทที่ยั่งยืน 100 ปี ซึ่งบางจากปรับแผนEBITDA ของบริษัทใน5ปีข้างหน้าจะมาจากธุรกิจน้ำมันทั้งโรงกลั่นฯและการค้าน้ำมันเพียงร้อยละ 60-70 ที่เหลือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เป็นไปตามทิศทางโลกที่มุ่งสู่การลดโลกร้อนตามแผน.. Carbon neutral
ดังนั้นบางจากฯจึงวางภารกิจ 4 งานสำคัญ ได้แก่ 1.LNG supply chain 2.lithium supply chain 3.green power supply chain และ 4.bio/pharmaceutical supply chain
“รถอีวีกำลังมาแต่บางจากฯจะไม่ร่วมทุนผลิตตัวรถแต่เดินหน้าลงทุนผลิตESSหรือแบตเตอรี่และบริการปั๊มชาร์จ. โดยในส่วนของการผลิตแบตเตอรี่จะทั้งดึงมาร่วมทุนในประเทศ.. ตามโควต้าลิเทียมที่มีสัดส่วนในการร่วมทุนก่อนหน้านี้ในแหล่งผลิตอาเจนตินา.6พัน ตัน/ปี กำลังเจรจาผู้ร่วมทุนยุโรปจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ ส่วนBCPG.. ที่ร่วมทุน.แบตเตอรี่ประเภทวานาเดียมรีดอกซ์โฟลว์ ก็เดินหน้าดำเนินการต่อไป”นายชัยวัฒน์กล่าว
นายชัยวัฒน์คาดรายได้ปีนี้นิวไฮหรือสร้างสถิติสูงสุดจากในอดีตเคยสูงสุดราว1.8แสนล้านบาทจากปีนี้มีธุรกิจหลากหลาย..ราคาน้ำมันดีดตัวส่งผลต่อธุรกิจสำรวจและผลิตและน้ำมัน.โดยเป็นผลจากคลายล็อกดาวน์ทั้งในไทยและหลายประเทศ
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันในปี64 ซึ่งสามารถกลั่นได้เต็มอัตรา 1.2 แสนบาร์เรลต่อวัน โดยไม่มีการกลั่นน้ำมันเครื่องบิน(เจท) แต่หันมากลั่นน้ำมัน UCO (Unconverted Oil) แทน ทำให้มีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจเทรดดิ้ง ของบริษัท BCP Trading Pte. Ltd. (BCPT) ก็มียอดขายเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ปัจจุบันมีสถานีบริการน้ำมันบางจากอยู่ที่ 1,247 สาขา ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1,310 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ร้านกาแฟอินทนิน ปัจจุบันมี 711 สาขา ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 800 สาขาภายในสิ้นปีนี้/
ธุรกิจไฟฟ้าของบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ยังคงได้รับผลดีจากปริมาณน้ำมันฝนในช่วงครึ่งปีหลังที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลดีต่อกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงในช่วงปลายปีนี้โครงการโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นจำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 40 เมกะวัตต์ ก็จะแล้วเสร็จ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ BCPG ยังขยายการลงทุนไปยังธุรกิจผลิตและจำหน่ายระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ (Utility-Scale Energy Storage System)หรือ แบตเตอรี่ประเภทวานาเดียมรีดอกซ์โฟลว์ (Vanadium Redox Flow)
ส่วนกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ พบว่าผลประกอบการของบริษัท OKEA เพิ่มขึ้น จากราคาน้ำมันดิบและราคาก๊าซธรรมชาติปรับเพิ่มขึ้น โดยอยู่ระหว่างการพัฒนาแหล่ง Yme จะเริ่มผลิตได้ตามแผนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทำให้กำลังการผลิตของ OKEA จากเดิม 10,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 15,500-16,500 บาร์เรลต่อวัน
สำหรับกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ของบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI ยังคงเติบโตในแง่ของธุรกิจ ล่าสุด BBGI ได้นำเข้า Astaxanthin Ingredients ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง (High Valued Bio-Based Products) และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านริ้วรอย บำรุงผิว โดยได้จัดจำหน่ายในประเทศไทยในรูปแบบ Business-to-Business (B2B) และมีแผนจะจำหน่ายในรูปแบบ Business-to-Customers (B2C) ภายใต้แบรนด์ B Nature Plus ต่อไป นอกจากนี้บริษัท วิน อินกรีเดียนส์ จำกัด (WIN) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง BBGI และ Manus Bio Inc. ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำหรับอาหาร (แบบ อ.18) สำหรับสารให้ความหวาน Neotame เพื่อการจำหน่ายในประเทศไทย และในเดือนมิถุนายน 2564 ได้แต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายสารให้ความหวานใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เรียบร้อยแล้ว.-สำนักข่าวไทย