กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เผยอนุญาตการใช้พื้นที่ คทช. เพิ่มอีกกว่า 1.5 ล้านไร่ ยังคงเหลือที่ต้องพิจารณาอีก 4 แสนไร่จึงจะครบ 3.9 ล้านไร่ตามที่กำหนดเป้าหมายในสิ้นปีนี้
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเพื่อจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) 253 คำขอ จาก 38 จังหวัด รวมเนื้อที่กว่า 1.5 ล้านไร่ ขณะนี้ยังคงเหลืออีก 71 พื้นที่ รวมประมาณ 4 แสนไร่ ที่อยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการของ คทช.จังหวัด เพื่อให้ครบ 3.9 ล้านไร่ตามที่กำหนดเป้าหมายในสิ้นปีนี้
พร้อมกันนี้ ยังได้กำชับให้ทุกจังหวัดเร่งรัดการจัดคนลงในพื้นที่คู่ขนานกันไป เพื่อที่ประชาชนจะได้มีพื้นที่ทำกินโดยเร็ว ตามนโยบายของรัฐบาล เป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ซึ่งเป็นความหวังของประชาชนที่จะได้มีพื้นที่ทำกินได้อย่างมั่นคง หลังจากที่รอคอยมานาน
นอกจากนี้ยังพิจารณาการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 12 คำขอเช่น อบต. บ้านปิน ขอใช้พื้นที่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ต้าฝั่งซ้ายเพื่อก่อสร้างสะพานข้ามห้วยแม่ต้าพร้อมทางเชื่อมในท้องที่ตำบลบ้านปิน อำเภอลอง จังหวัดแพร่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขอใช้พื้นที่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยบ่อ ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ลาวฝั่งซ้ายและป่าแม่กกฝั่งขวาเพื่อปักเสาพาดสายขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้ราษฎรที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ในท้องที่ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ขอใช้พื้นที่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งขวาห้วยศาลาเพื่อเป็นสถานที่ตั้งสำนักงานสวนป่าขุนหาญและจัดทำเรือนเพาะชำในท้องที่ ตำบลบักดอง อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ และบริษัท ศิลาเขาแก้ว จำกัด ขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาทุ่งดินดำ และป่าเขาตาเก้า เพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง ตามคำขอต่ออายุประทานบัตรที่ 2/2562 (ประทานบัตรที่ 28487/15550) ท้องที่ตำบลหนองโอ่ง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นต้น. – สำนักข่าวไทย