กรุงเทพฯ 29 ส.ค.- กิจกรรมมวลชน Car Mob Call Out ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีบ่ายวันนี้ เป็นไปตามนัดหมาย ขณะที่ต่างจังหวัดหลายพื้นที่ก็มีการจัดกิจกรรมเช่นเดียวกัน
ที่ถนนเกษตร-นวมินทร์ ขาออก ตั้งแต่ช่วงบ่าย มวลชน Car Mob Call Out 29 สิงหา ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช.และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ บก.ลายจุด รวมถึงกลุ่มทะลุฟ้า รวมตัวกันก่อนเคลื่อนขบวนในเวลาประมาณ 15.00 น. จุดประสงค์ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แบบสันติวิธี ไปตามเส้นทางถนนงามวงศ์วานก่อนเข้าสู่จังหวัดนนทบุรี ถนนรัตนาธิเบศร์-ชัยพฤกษ์-สะพานพระราม4-เข้าถนนติวานนท์และไปปราศรัยที่สวนเทพปทุม จ.ปทุมธานี ระหว่างการเคลื่อนขบวน มีการบีบแตรตลอดเส้นทาง
ขณะเดียวกันใน จ.นนทบุรี มีมวลชนกลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ที่ตั้งขบวนรออยู่บริเวณหน้าสถานีไทยคม หลังจากนั่นได้รวมตัวกับกลุ่มคาร์ม็อบของนายณัฐวุฒิก่อนเคลื่อนขบวนไปตามถนนรัตนาธิเบศร์ข้ามสะพานพระนั่งเกล้า ก่อนขึ้นสะพานกลับรถมุ่งเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์ เลี้ยวขวาข้ามสะพานพระราม4 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนติวานนท์ มุ่งหน้าเข้าจังหวัดปทุมธานี เพื่อจัดกิจกรรมปราศรัยตามที่แกนนำได้กำหนดไว้ จากการสังเกตพบว่าวันนี้มีรถจยย.และรถยนต์ เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้จะสังเกตเห็นอีกหนึ่งอย่างคือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ไม่ได้มีการจัดกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชน มีแต่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบกระจายกันดูแลความเรียบร้อย ก่อนที่กลุ่มคาร์ม็อบจะเดินทางไปปราศรัยที่สวนเทพปทุม จ.ปทุมธานีตามที่กำหนด ถือว่าเสร็จสิ้นกิจกรรมชุมนุมในวันนี้
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวถึงกิจกรรมคาร์ม็อบวันนี้ว่า ต้องการรวมพลังประชาชนแสดงออกในกิจกรรมคาร์ม็อบ เพื่อประกาศการลงมติไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว. กลาโหม โดยประชาชน จากวันนี้จะมีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง นัดหมายแสดงพลังครั้งใหญ่ในไม่กี่วันครั้งหน้า ส่วนวัน เวลา สถานที่ และรูปแบบ ขออธิบายความหลังจากนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน สำหรับกิจกรรมครั้งนี้มีเจตนาเปิดเผยต่อกัน ในการอำนวยความสะดวกประชาชนขับไล่นายกรัฐมนตรี อย่างสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ และเดินไปราบรื่นตามวัตถุประสงค์
ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา กิจกรรมคาร์ม็อบปรับกลยุทธ์เป็นกลุ่ม “คาร์บุญ” ได้จัดแจกสิ่งของข้าวสารอาหารแห้งแก่ประชาชนทั่วไปใน ต.ลุมพลี มีประชาชนไปรอคอยจำนวนมาก เนื่องจากมีการประกาศล่วงหน้า โดยเมื่อรถจอดก็ให้ประชาชนรับสิ่งของจากด้านท้ายรถ ปรากฏว่าประชาชนต่างพากันแย่งสิ่งของอย่างอลหม่าน ทางแกนนำได้ประกาศขออภัยเนื่องจากสิ่งของมีจำนวนจำกัด ไม่สามารถให้ทุกคนได้ และได้ฝากให้หน่วยงานรัฐเข้าไปดูแลความเดือดร้อนของประชาชนด้วย ขณะเดียวกันได้มีกลุ่มปกป้องสถาบัน ได้รวมตัวกันที่หน้าพระราชวังจันทรเกษม เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนได้ร่วมกันปกป้องสถาบัน ซึ่งใช้เวลาในการรวมตัวเพื่อแสดงออกประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วเดินทางกลับ โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามารักษาความสงบเรียบร้อยทั้งสองกลุ่ม อีกทั้งยังมีการตั้งจุดกวดขันวินัยจราจรทั่วเมืองด้วย
ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ กลุ่มผู้ชุมชนคาร์ม็อบทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ เคลื่อนขบวนไปศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อขบวนมาถึงประตูทางเข้า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนนำแบริเออร์ใส่น้ำมาวางขวาง บริเวณประตูทางเข้า ทางแกนนำได้ประกาศเพื่อขอเข้าไปใช้พื้นที่ในศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่เพื่อยื่นข้อเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แต่การเจรจาไม่เป็นผล กลุ่มผุ้ชุมนุมได้เข้ารื้อแท่งแบริเออร์และเทน้ำทิ้ง เคลื่อนขบวนเข้าไปบริเวณประตูเหล็ก มีการเจรจาอีกรอบแต่ก็ไม่เป็นผล ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงใช้ลูกโป่งใส่น้ำผสมสี ปาเข้าใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจจนแตกกระเจิงและเกิดการชุลมุนกันขึ้น ก่อนมีการเจรจากับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง ขอเข้าไปใช้พื้นที่บริเวณวงเวียน สุดท้ายเจ้าหน้าที่ยิมยอมเปิดประตูให้ กลุ่มผู้ชุมชนจึงเคลื่อนขบวนเข้าไปในพื้นที่บริเวณวงเวียนภายในศูนย์ราชการห่างจากประตูทางเข้าประมาณ 100 เมตร โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่หลายร้อยนายกระจายดูแลรอบพื้นที่ พร้อมรถดับเพลิงมากกว่า 20 คัน.-สำนักข่าวไทย