กรุงเทพฯ 15 ก.พ.-“สมชัย” เผยการหารือ ไออาร์ไอ แลกเปลี่ยนแนวทางการทำงาน เตรียมความพร้อมจัดการเลือกตั้ง เร่งพัฒนารูปแบบสู่สากล รวมทั้งการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยถึงการพบและหารือกับ นายแมทธิว เจ. เฮย์ ผู้อำนวยการสำนักงานอินเตอร์เนชั่นแนล รีพับลิกัน อินสติติวห์ประจำประเทศไทย หรือ International Republican Institute (IRI) ซึ่งเป็นหน่วยงานส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยทั่วโลก โดยการให้ความช่วยเหลือต่อพรรคการเมืองและพลเมืองให้มีส่วนร่วมในการดำเนินงานของรัฐบาล ว่า ได้มีการปรึกษาแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต
นายสมชัย กล่าวว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ดำเนินการพัฒนาระบบการบริหารจัดการเพื่อรองรับการจัดการเลือกตั้ง โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดการเลือกตั้ง ประกอบด้วย 1.กระบวนการรับสมัครเลือกตั้ง พรรคการเมืองสามารถส่งผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อได้ โดยใช้ช่องทางการสมัครทางอินเทอร์เน็ต เพื่อป้องกันปัญหาการปิดล้อม หรือการขัดขวางการรับสมัคร โดยสำนักงาน กกต.จัดฝึกอบรมให้กับพรรคการเมือง และพนักงานของ กกต. ให้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้ระบบดังกล่าว 2.สนับสนุนพรรคการเมืองให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการเลือกตั้งแบบใหม่ ที่จะต้องดำเนินการตามที่กฎหมายใหม่กำหนดในการลดต้นทุนการผลิตโปสเตอร์ ทั้งขนาดและสถานที่ติดป้ายโปสเตอร์ตามที่ กกต.กำหนด
นายสมชัย กล่าวอีกว่า 3.การจัดทำโปรแกรมการคำนวณคะแนนเสียงเลือกตั้ง เพื่อจัดสรรจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขต และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อว่าพรรคใดได้คะแนนเสียงเท่าใด จะมี ส.ส.ทั้ง 2 ระบบนี้ได้จำนวนกี่คน ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจไปยังประชาชนและพรรคการเมือง ให้เกิดการยอมรับกระบวนการดังกล่าว
นายสมชัย กล่าวด้วยว่า สำนักงาน กกต.ยังเตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากที่สุด เช่น การจัดให้มีช่องทางการลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง และการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร การเปิดระบบให้มีการลงคะแนนทางอินเทอร์เน็ต นำร่องใน 3 ประเทศ ได้แก่ จอร์แดน นอร์เวย์ และโอซากา ประเทศญี่ปุ่น การจัดทำแอพพลิเคชั่นดาวเหนือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเพียงใช้หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ก็จะสามารถทราบหน่วยเลือกตั้งที่ตนมีสิทธิ และมีแผนที่นำทางโดยระบบ GPS ทำให้ประชาชนไปยังหน่วยเลือกตั้งได้อย่างถูกต้องแม่นยำ รวมทั้งแอพพลิเคชั่นในการรายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ โดยกรรมการการประจำหน่วยเลือกตั้งสามารถรายงานผลผ่านมือถือ ซึ่งทำให้ทราบผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการทั่วทั้งประเทศ โดยใช้ระยะเวลาไม่เกิน 5 ชั่วโมง
“ส่วนมาตราการป้องกันการทุจริต ซื้อเสียง และการวางตัวไม่เป็นกลางทางการเมืองของข้าราชการ และฝ่ายการเมือง สำนักงาน กกต.ได้เตรียมฝึกอบรมพนักงานสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ให้เกิดความรู้ความเข้าใจ และมีความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงาน การปรับปรุงขั้นตอนการทำงานให้มีความรวดเร็วเพิ่มขึ้นถึง 50% การจัดทำแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ชื่อว่า “ตาสับปะรด” เพื่อให้ประชาชนแจ้งข้อมูลเบาะแสการทุจริตการเลือกตั้งได้โดยตรง ซึ่งเป็นการบริหารงานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตลอดทั้งร่วมมือกับองค์กรต่างประเทศในการพัฒนารูปแบบการเลือกตั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการ ผู้สูงอายุ ให้ได้มาตรฐานสากลและเป็นต้นแบบของประเทศอื่นๆ” นายสมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย