นนทบุรี 18 ส.ค.-กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเผยยอดส่งออกผลไม้ไทยไปจีนในช่วง 6 เดือนแรกปี 64 ขยายตัวกว่าร้อยละ 64 โดยเฉพาะสับปะรดร้อยละ 90.94 ทุเรียนร้อยละ 83.56 และลำไยร้อยละ 70.71 แนะผู้ประกอบการเข้มงวดเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยด้านโควิดทุกขั้นตอน หลังจีนตรวจเข้ม
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่าจากการติดตามสถิติการส่งออกผลไม้สดของไทยไปยังประเทศจีนในครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2564) มีมูลค่าสูงถึง 74,539.44 ล้านบาท มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 64.89 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยผลไม้สดที่มีอัตราขยายตัวสูงได้แก่ สับปะรดร้อยละ 90.94 ทุเรียนร้อยละ 83.56 และ ลำไย ร้อยละ 70.71 เป็นต้น และจีนยังคงเป็นตลาดส่งออกที่มีศักยภาพสูงของไทย
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ทำให้จีนได้มีมาตรการที่เข้มข้นในเรื่องความปลอดภัยด้านโควิดที่อาจปนเปื้อนมากับสินค้ามากขึ้น ซึ่งกรมได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ในจีนได้เร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นได้ภาพลักษณ์สินค้าอาหารของไทยว่าปลอดการปนเปื้อนจากเชื่อโวรัสโควิด-19 ภายใต้แคมเปญ “Thailand Delivers with Safety” ในการสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความเข้าใจด้านอาหารปลอดภัยของไทย โดยผลไม้ที่ส่งออกจะมีการควบคุมมาตรฐานทุกขั้นตอนตามระเบียบปฏิบัติการส่งออกที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด อาทิ มาตรฐานความสะอาดและปลอดภัยทั้งการผลิตภายในสวน การคัดแยก การบรรจุหีบห่อ ระบบการขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีการฉีดฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งภายในตู้และภายนอกรถขนส่งผลไม้ รวมทั้งการคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับพนักงานขับรถ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นว่าสินค้าที่ส่งไปยังผู้บริโภคมีความปลอดภัย ในทุกๆ ขั้นตอนการผลิต
นอกจากนี้ ทูตพาณิชย์ของไทยในจีนยังได้จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขายและยกระดับการส่งออกผลไม้ไทยสู่ตลาดจีนในเมืองต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดงาน Thai Fruits Golden Months ร่วมกับห้างสรรพสินค้า ในเมืองชิงต่าว คุนหมิง และเมืองเซี่ยเหมิน โดยผลไม้ที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภค ได้แก่ ทุเรียน มังคุด มะพร้าว ส้มโอ เป็นต้น และกรมฯมีแผนจะจัดกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในปีต่อไป เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างการรับรู้ผลไม้ไทยให้เป็นที่รู้จัดของผู้ซื้อมากขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดจีนยังคงเป็นตลาดส่งออกผลไม้หลักของไทยและมีศักยภาพสูง ผู้ประกอบการส่งออกไทยจึงควรปฏิบัติตามระเบียบ และให้ความเข้มงวดในเรื่องการป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 ติดไปกับสินค้าในทุกขั้นตอน พร้อมกับใส่ใจเรื่องคุณภาพของสินค้า เพื่อรักษาชื่อเสียงและคุณภาพของสินค้าผลไม้ไทย เพราะหากการ์ดตกนอกจากจะกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัทแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมได้ด้วย โดยเฉพาะในตลาดหลักต่างๆ หากก็อาจจะเสียส่วนแบ่งทางตลาดให้กับประเทศคู่แข่งได้.-สำนักข่าวไทย