สนามหลวง 27 ก.พ.- นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีบวงสรวงการก่อสร้างและยกเสาเอกพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเป็นไปตามแผนงาน คาดก่อสร้างเสร็จสิ้นประมาณกันยายนหรือตุลาคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.01 น. วันนี้ (27 ก.พ.) บริเวณสนามหลวงด้านทิศใต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีบวงสรวงการก่อสร้างและยกเสาเอกพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ข้าราชการกรมศิลปากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศฯ ได้กล่าวรายงาน จากนั้นนายกรัฐมนตรีเป็นประธานจุดเทียนบูชาเครื่องบวงสรวง พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ อ่านโองการบวงสรวงฯ รดน้ำเทพมนต์ และเจิมเสา
จากนั้นนายกรัฐมนตรีสรงน้ำปิดทอง และผูกผ้าแพรสามสีที่เสาเอกพระเมรุมาศ ถือสายสูตรยกเสาเอกพระเมรุมาศ คณะนาฏศิลป์ รำบวงสรวงจำนวนเก้าคู่ นายกรัฐมนตรีถวายภัตตาหาร พร้อมเครื่องไทยธรรมและจตุปัจจัยแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป พระสงฆ์อนุโมทนา กรวดน้ำถวายเป็นพระราชกุศล เป็นอันเสร็จพิธี
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะได้เยี่ยมชมแบบแผนพระเมรุมาศ และพระที่นั่งทรงธรรม พร้อมตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรและอาสาสมัคร ภายในอาคารโรงขยายแบบ อาคารปั้นหล่อประติมากรรม อาคารเขียนสีและตกแต่งองค์ประกอบ และอาคารจัดสร้างพระโกศจันทร์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
สำหรับกำหนดฤกษ์พิธีบวงสรวงการก่อสร้างและยกเสาเอกพระเมรุมาศฯ เป็นมหัทธโนฤกษ์ หมายถึง ฤกษ์ใหญ่ ใช้ประกอบการมงคลทุกอย่าง พิธียกเสาเอกพระเมรุมาศฯ ขึ้นตั้งนี้ เป็นพิธีที่ปฏิบัติสืบทอดตามวัตถุประสงค์เดิม คือ การประกอบพิธีมงคลในพระพุทธศาสนาและพิธีพราหมณ์ เพื่อการบวงสรวงบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพยดาอารักษ์ในบริเวณท้องสนามหลวง เพื่อบอกกล่าวขออนุญาตปลูกสร้างพระเมรุมาศ และเพื่อความเป็นสวัสดิมงคล ความสำเร็จลุล่วงของงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีบวงสรวงการก่อสร้างและยกเสาเอกพระเมรุมาศฯ พร้อมตรวจโรงออกแบบการก่อสร้างพระเมรุมาศ ว่า การก่อสร้างครั้งนี้ได้แสดงถึงขีดความสามารถของผู้ประกอบการคนไทยที่ออกแบบและใช้วัสดุภายในประเทศ เพื่อให้ชาวโลกได้เห็นว่า ประเทศไทยมีสิ่งที่ดีงาม และมีประเพณีที่ต้องร่วมกันอนุรักษ์และควรภาคภูมิใจ ที่ทุกคนได้ทำงานถวาย ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติงานได้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ทำให้รู้สึกสบายใจ เพราะงานมีความก้าวหน้า และจะดำเนินการก่อสร้างภายในเวลา 1 ปี เสร็จสิ้นประมาณเดือนกันยายนหรือเดือนตุลาคมนี้ เช่นเดียวกับรัฐบาลที่ได้ทำงานตามโรดแมป แต่หากมีสิ่งใดมาขัดขวางไม่สำเร็จ ก็อาจจะต้องขยับ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้ทุกคนมีสติและสงบ การจะทำอะไรต้องนึกถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศ เช่นเดียวกับรัฐบาลที่ขณะนี้แก้ปัญหาทุกวัน โดยสิ่งไหนที่ไม่สร้างสรรค์ หรือเกิดความขัดแย้ง ก็อย่าให้ความสำคัญมากนัก และให้เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงาน.-สำนักข่าวไทย