พารากอน 8 มี.ค. – ธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเติบโตถึงร้อยละ 26 รับอานิสงส์ท่องเที่ยวบูม โดยเงินเยนญี่ปุ่นครองแชมป์นิยมมากที่สุด ด้านซุปเปอร์ริช (ไทยแลนด์) เตรียมเปิดอีก 3 สาขา
นางสาวสิตามนินท์ สุสมาวัตนะกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซุปเปอร์ริช (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศปี 2559 มีมูลค่า 420,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตร้อยละ 26 จากปี 2558 ที่มีมูลค่ารวมประมาณ 333,000 ล้านบาท โดยได้รับอานิสงส์จากนโยบายของภาครัฐที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายท่องเที่ยวในประเทศเติบโตร้อยละ 10 มีเม็ดเงินสูง 2.7 ล้านล้านบาท และต้องการเจาะกลุ่มทัวร์ระดับพรีเมี่ยมที่มีกำลังซื้อสูงและมีแนวโน้มเข้ามาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น โดยสกุลเงินที่ได้รับการตอบรับและมียอดการแลกเปลี่ยนมากขึ้น คือ เงินเยนญี่ปุ่น เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 200 ดอลลาร์ไต้หวัน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 120 ดอลลาร์ฮองกง เพิ่มขึ้นร้อยละ 90 รวมทั้งเงินวอนเกาหลีใต้ เนื่องจากความนิยมท่องเที่ยวประเทศเหล่านี้มีมากขึ้น
ด้านนางสาวธณัทร์ษริน สุสมาวัตนะกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาองค์กร บริษัท ซุปเปอร์ริช (ไทยแลนด์) ยอมรับว่า แม้ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตรามีการแข่งขันสูงมากและจำนวนผู้ประกอบการรายใหม่เกิดขึ้นมากร้อยละ 6 ในปีที่ผ่านมา แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ ในต่างจังหวัด แต่บริษัทมีจุดเด่นที่อัตราแลกเปลี่ยนในการแลกเงินของบริษัทเป็นเรตดีที่สุด โดยปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 76 กำไรโตขึ้นร้อยละ 21 และปีนี้มีแผนขยายสาขาในศูนย์การค้าและย่านชุมชน เตรียมเปิดอีก 3 สาขา จากปัจจุบันมีทั้งสิ้น 14 สาขา พร้อมกับเปิดกลยุทธ์ ซุปเปอร์ริช ไลฟ์ ลูกค้าสามารถแลกเงินไทยเป็นเงินต่างชาติด้วยเรตเดียวกันทุกสาขา โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว
สำหรับการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทไม่มีการสตอกเงินไว้ปริมาณมาก เพื่อเก็งกำไร แต่สตอกเงินสกุลต่าง ๆ ให้เพียงพอต่อการซื้อมาขายไปเท่านั้น ซึ่งตามกฎหมายลูกค้าสามารถแลกเงินได้ 800,000 บาทต่อวัน แต่หากแลกเงินเกิน 500,000 บาทต่อวันจะต้องรายงานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการใช้เทคโนโลยีฟินเทคเข้ามาปรับใช้ในธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตรา เพื่อให้บริการลูกค้า เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และแนวโน้มลดการใช้เงินสด อย่างไรก็ตาม ลูกค้ามีความต้องการที่จะแลกเปลี่ยนเงินตราลักษณะพบปะพูดคุยกับพนักงานมากกว่าแลกเงินตราผ่านออนไลน์ เพราะได้รับทราบข้อมูลจากพนักงาน.-สำนักข่าวไทย