ทำเนียบฯ 20 ก.ค. – ครม.รับทราบความคืบหน้าลงนามจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส ส่งมอบไตรมาส 4 หนุนไทยมีวัคซีนหลากหลายประเภท เผย อภ.อยู่ระหว่างเจรจานำเข้าชนิดซับยูนิตโปรตีน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพื่อฉีดให้กับประชาชน โดยล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ (20 ก.ค.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามกับผู้แทนบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) และ อินโดไชนา ในการจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งเป็นวัคซีนชนิด mRNA จำนวน 20 ล้านโดส โดยจะมีการจัดส่งในไตรมาส 4 ของปีนี้
“นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกหน่วยงานที่สนับสนุนให้สามารถจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส รวมถึงวัคซีนเทคโนโลยีต่างๆ มาฉีดให้แก่ประชาชน และขอให้มีการบริหารจัดการกระจายวัคซีนให้ดี มีแผนที่ชัดเจน รวมถึงการให้ข้อมูลการจัดสรรแก่ประชาชนที่ชัดเจนต่อไป” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ยังได้รายงานกับ ครม.ว่า การทำข้อตกลงเพื่อจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ในครั้งนี้ จะทำให้ไทยมีวัคซีนโควิด-19 กระจายให้ประชาชนเกือบครบทุกชนิด ทั้งในส่วนของ mRNA ของไฟเซอร์ โมเดอร์นา ชนิดเชื้อตาย ของซิโนแวคและซิโนฟาร์ม ชนิดไวรัลเวกเตอร์ ของแอสตราเซเนกา และล่าสุดองค์การเภสัชกรรม (อภ.) อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนชนิดโปรตีนซับยูนิต ซึ่งคาดว่าจะนำเข้ามาเพื่อฉีดให้กับประชาชนได้ในปี 2565 และจะทำให้ไทยมีวัคซีนโควิด-19 ครบทุกเทคโนโลยีที่มีการผลิตอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ วัคซีนไฟเซอร์ ได้รับการขึ้นทะเบียนแบบมีเงื่อนไขจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.64 แผนการฉีดประกอบด้วยการฉีดวัคซีนจำนวน 2 เข็ม โดยเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 21 วัน และเป็นวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนให้ใช้สำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ขณะที่วัคซีนตัวอื่นเป็นวัคซีนสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป.-สำนักข่าวไทย