กรุงเทพฯ 19 ก.ค.- บลจ.วรรณร่วมมือกับธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เสนอขายกองทุนธีม ESG เน้นลงทุนหุ้นยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ความผันผวนต่ำ กระจายความเสี่ยง
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด(บลจ.วรรณ) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การลงทุนในปัจจุบัน ทำให้บริษัทเล็งเห็นความต้องการลงทุนที่มีความเกี่ยวข้องกับความยั่งยืนในเชิงการเติบโตของธุรกิจและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมมากขึ้น พิจารณาถึงความต้องการดังกล่าว ควบคู่ไปกับ การวิเคราะห์โอกาสการเติบโตของบริษัทในกลุ่มESGและแนวโน้มเศรษฐกิจและสังคม เพื่อหาโอกาสการลงทุนที่ดี จึงได้เปิดเสนอกองทุนเปิด วรรณ เอเชียแปซิฟิคESG (ONE-APACESG)โดยAPACESGจะเป็นกองทุนFeeder Fundเน้นลงทุนผ่านกองทุนหลักBNP Paribas Green Tiger Fundไม่น้อยกว่า80%ของNAVโดยมีการกระจายการลงทุนไปยังหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อาทิ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย โดยสัดส่วนการลงทุนประเทศ 5 อันดับแรกอยู่ที่ประมาณ 20% 19% 18% 12%และ 10%ตามลำดับ
ทั้งนี้ กองทุนยังกระจายการลงทุนไปในประเทศ เกาหลีใต้และฮ่องกง ด้วยเช่นกัน และธุรกิจ 5 อันแรกที่ลงทุน ได้แก่ ธุรกิจอุตสาหกรรม เทคโนโลยี สินค้าฟุ่มเฟือย สาธารณูปโภค และสินค้าจำเป็นในสัดส่วน33%29%14%9%4%ตามลำดับ
ONE-APACESGเป็นความร่วมมือกันระหว่างบลจ.วรรณและธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)โดยทางธนาคารซิไอเอ็มบีจะเป็นเป็นพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายกองทุนนี้เป็นหลัก และจะเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 19 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม2564 นอกจากนี้ONE-APACESGจะเน้นลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียน,พลังงานทดแทน,การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ,โครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีทางน้ำ,การจัดการของเสีย,การบริการด้านสิ่งแวดล้อม และธุรกิจอาหารแบบยั่งยืน เป็นต้น
ในส่วนของผลการดำเนินงานของกองทุนหลักBNP Paribas Green Tiger Fundที่ผ่านมามีการเติบโตที่ดี โดย 3 ปี 2 ปี และ 1 ปี มีผลตอบแทบเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 14.39% 25.89%และ 57.34%หากเปรียบเทียบกับดัชนีเกณฑ์มาตรฐานMSCI Asia Pacific ex Japan NTR USD 80%, MSCI Japan NTR USED 20%ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 9.87% 20.69%และ 45.87%ตามลำดับ
หากพิจารณาด้านความผันผวนของกองทุนหลัก ข้อมูล ณ วันที่ 22 มิ.ย.64 พบว่าอยู่ประมาณ 15.50%ซึ่งค่อนข้างน้อยกว่ากองทุนต่างประเทศที่ลงทุนในหุ้นAsia Pacificและเน้นบริหารการลงทุนเชิงรุกที่มีอยู่ในตลาดในปัจจุบันซึ่งมีความผัวผวนอยู่ในกรอบเฉลี่ย 17%- 24%นอกจากนี้กองทุนBNP Paribas Green Tiger Fundมีค่าสหสัมพันธ์ที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก ตลาดหุ้นเอเชีย แปซิฟิก และตลาดหุ้นญี่ปุ่นในภาพรวม ซึ่งเหมาะสำหรับจัดสรรพอร์ตเพื่อการกระจายการลงทุน หากเทียบกับกองทุนประเภทหุ้นอื่นทั่วๆไป
“เราพยายามผสมผสานโอกาสการลงทุนควบคู่ไปสนับสนุนธุรกิจที่เติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยเศรษฐกิจเอเชียมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นในระยะข้างหน้า จากสัดส่วนประชากรในวัยแรงงานที่มีอยู่ในระดับสูง ทำให้ภูมิภาคเอเชียจะกลายเป็นกำลังสำคัญในการใช้จ่ายสินค้าและบริการของโลก ช่วยหนุนรายได้ของบริษัทที่มีฐานลูกค้าในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มเติบโตไปกับTrendโลกยุคใหม่ในระยะข้างหน้าด้วย ในแง่มุมของมูลค่าในตลาดValuationของหุ้นเอเชียยังlaggardกว่าตลาดหุ้นในกลุ่มDMดังนั้น หากให้จัดพอร์ตการลงทุน ผมมองว่า การลงทุนในกองทุนESGจะช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตได้ในระยะยาว เนื่องจากจดทะเบียนในกลุ่มดังกล่าว ยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐบาลในหลายๆประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น จีน รวมถึง อินเดีย” นายพจน์กล่าว
นายพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่าขณะนี้บริษัทมีความพร้อมที่จะสนับสนุนการลงทุนเพื่อเสริมสร้างการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน (ESG)ในฐานะสถาบันทางการเงิน โดยส่งเสริมธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และความโปร่งใสให้เพิ่มมากขึ้นซึ่งได้จัดตั้งโครงการ วรรณคืนกำไร ปันน้ำใจสู่สังคมโดยยอดเงินลงทุนทุกๆ 1,000 บาท บริจาค 1 บาท เพื่อมอบให้กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ แนวคิดดังกล่าว จะไม่กระทบต่อยอดเงินลงทุนของผู้ถือหน่วยแต่อย่างใด แต่จะคำนวนจากการรับรู้รายได้ของยอดขายกองทุนนี้ เท่านั้น. -สำนักข่าวไทย