กรุงเทพฯ 10 ก.ค.- โฆษกรัฐบาล แจงนายกรัฐมนตรีไม่ได้รับเงินเดือนประจำ จากการนั่งประธานคณะกรรมการชุดต่างๆ ตามที่สื่อโซเชียลฯ ระบุ และไม่ได้ร่วมประชุมทั้งหมดทุกคณะ
โดยนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการเปิดเผยในสื่อโซเชียลมีเดียว่า นอกจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้สละเงินเดือนในตำแหน่งนายกฯ เพื่อมอบให้ช่วยเหลือสถานการณ์โควิด-19 แล้วนั้น นายกรัฐมนตรียังมีตำแหน่งต่างๆ อีก 56 ตำแหน่งว่าในตำแหน่งต่างๆ ที่มีการกล่าวถึงอีกกว่า 50 ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีไม่ได้รับเงินเดือนประจำจากตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งการเป็นประธานคณะกรรมการชุดต่างๆ หากมีการเข้าร่วมประชุมก็จะได้รับเป็นเบี้ยประชุม
โดยนายกรัฐมนตรีไม่ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการชุดต่างๆในทุกเดือนและไม่ได้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดทุกคณะ โดยบางคณะได้มอบหมายให้คนอื่นเข้าร่วมประชุมแทน
สำนักข่าวไทย อสมท ตรวจสอบข้อมูลพบว่า นอกจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ท่านยังดำรงตำแหน่งสำคัญอีกอย่างน้อย 56 ตำแหน่ง เช่น
-ประธานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
-ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
-ประธานคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ
-ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
-ประธานคณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
-ประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกด้วยว่าตามระเบียบและข้อกำหนดของกระทรวงการคลัง ข้าราชการการเมืองที่ดำรงตำแหน่งมากกว่าหนึ่งตำแหน่งให้ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งที่สูงกว่าเพียงตำแหน่งเดียว ดังนั้น นายกรัฐมนตรีไม่เคยได้รับเงินเดือนในตำแหน่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแต่อย่างใด
ล่าสุดวันนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีหลายคนประกาศไม่รับเงินเดือนเป็นเวลา 3 เดือน ว่าตนยินดีดำเนินการในลักษณะเดียวกันด้วย โดยนายกรัฐมนตรีพูดเรื่องดังกล่าวในที่ประชุม ศบค. ซึ่งมีรัฐมนตรีหลายคนไม่ได้ร่วมประชุมด้วย เชื่อว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ คงมีการพูดคุยกันอีกครั้ง เบื้องต้นตนได้คุยกับรองนายกฯ ที่อยู่ในที่ประชุมศบค.ด้วยกัน ทุกคนเห็นด้วย ขณะนี้กำลังคุยกันว่าจะใช้วิธีบริจาคอย่างอย่างไร จะให้หักเงินเดือนหรือให้นำเงินมาคืนให้ เพราะถ้าหักเงินเดือนก็ต้องรอถึงสิ้นเดือนดังนั้นการนำเงินมาคืนจะสะดวกที่สุด อย่างไรก็ตามมาตรการเช่นนี้ เมื่อปีที่ผ่านมาก็เคยดำเนินการมาแล้ว บางคนนำเงินไปบริจาคซึ่งมากกว่าเงินเดือนแล้วนำมาแสดงต่อสำนักเลขาธิการนายกฯ โดยเงินที่จะบริจาคทั้งหมดปลัดสำนักนายกฯจะเป็นผู้รวบรวมเพื่อนำไปดำเนินการต่อไป โดยจนถึงขณะนี้มีคณะรัฐมนตรีที่ประกาศไม่รับเงินเดือนตามนายกรัฐมนตรีรวมทั้งสิ้น 29 คน.-สำนักข่าวไทย