ทำเนียบฯ 28 ก.พ. – นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแนวทางปรับระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ทั้งในส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ เพื่อป้องกันการทุจริต คอร์รัปชั่น หลังจาก พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 24 กุมภาพันธ์ มีผลบังคับใช้เดือนสิงหาคม แต่ก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้รัฐบาลต้องการควบคุมการจัดซื้อจัดจ้างในช่วง 6 เดือนข้างหน้า จึงกำหนดแนวทางดังนี้ 1.การลดปัญหาการกำหนดขอบเขตงาน (TOR) ไม่ชัดเจน จากการล็อคสเปค การกำหนดราคาสูงเกินจริง จึงเปิดทางให้การจัดทำข้อตกลงคุณธรรม (Integity Pact) ด้วยการให้คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางป้องกันการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างในภาครัฐ เพื่อส่งคนมาติดตามทุกขั้นตอนตั้งแต่การกำหนด TOR การกำหนดราคากลาง การประมูล เพื่อติดตามทุกขั้นตอนให้โปร่งใสและกำหนดให้กรมบัญชีกลางจัดทำฐานข้อมูลราคา เพื่อใช้ในส่วนราชการและทำการตรวจสอบ
2.การป้องกันปัญหาสมยอมราคาหรือฮั้วประมูล ด้วยการเพิ่มอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับหลักเกณฑ์และตรวจสอบราคากลางงานก่อสร้าง ซึ่งตั้งตามมติ ครม.ตั้งแต่ปี 2557 เพื่อกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิ์ยื่นเสนอราคาให้เกิดความหลากหลาย ไม่ใช่กำหนดเฉพาะกลุ่ม เพื่อเปิดโอากาสให้มีการแข่งขันมากขึ้น เช่น โครงการลงทุนมูลค่าเกิน 5,000 ล้านบาทขึ้นไป เป็นงานที่มีรายละเอียดซับซ้อน มีเทคนิคเฉพาะทาง ต้องใช้บุคลากรเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น อุโมงค์ใต้ดิน ท่าเรือขนส่งสินค้า ท่าอากาศยาน และงานอื่นที่ไม่ใช่ก่อสร้างมูลค่าตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อเปิดทางให้ต่างประเทศยื่นประมูลงานได้ ไม่จำเป็นต้องกำหนดเฉพาะคนไทยเท่านั้น
- การจัดซื้อจัดจ้างผ่านคนกลาง (Agent) กำหนดให้เจ้าของโครงการหากสามารถจัดซื้อกับผู้ผลิตได้โดยตรงควรดำเนินการจัดซื้อเอง ไม่จำเป็นต้องผ่านคนกลางเพื่อให้กินส่วนต่างและภาครัฐเสียผลประโยชน์ดังกล่าว เว้นแต่มีเหตุผลชี้แจงได้ตามความจำเป็น จึงจัดซื้อผ่านคนกลางได้ และที่ประชุม ครม.เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับหลักเกณฑ์และตรวจสอบราคากลางงานก่อสร้างที่มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นประธาน เพื่อตรวจสอบติดตามโครงการลงทุนของภาครัฐ เพื่อให้โครงการลงทุนภาครัฐมีความโปร่งใส.-สำนักข่าวไทย