กทม. 15 มิ.ย. -เพื่อไทย ชี้ รัฐยังล้มเหลวเรื่องจัดการวัคซีน ห่วง กระทบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว แนะเร่งแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนการบริหาร วอนประชาชนสนใจเพราะเป็นเรื่องสำคัญ
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ และรองเลขาธิการและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รู้สึกผิดหวัง ที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงจัดการเรื่องวัคซีนได้ล้มเหลว ทำให้ประชาชนจำนวนมากผิดหวัง และไม่พอใจจึงยิ่งตอกย้ำว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีความสามารถในการบริหารจัดการในทุกด้านในช่วงวิกฤตการณ์ไวรัสโควิดนี้ พร้อมอยากให้ดูตัวอย่างประเทศลาวที่ยินดีฉีดวัคซีนยี่ห้อ ไฟเซอร์ ให้กับคนไทยที่อยู่ในลาว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการที่ต่างกันมาก
นายจักรพล กล่าวอีกว่า การบริหารจัดการวัคซีนที่ผิดพลาดนี้ พล.อ.ประยุทธ์น่าจะต้องออกมายอมรับความผิดพลาดและขอโทษประชาชน ไม่ใช่ปล่อยให้หน่วยงานต่างๆโทษกันไปโทษกันมา ทั้งกระทรวงสาธารณสุข ศบค. กทม. และ โรงพยาบาล ส่วนเรื่องภูเก็ตแซนบ็อกซ์ก็ยังสับสน ซึ่งหากสรุปได้ว่ามีมาตรการที่เหมาะสมแล้ว ก็ควรเปิดแซนด์บ็อกซ์ในหลายจังหวัดท่องเที่ยวเลย ทั้ง ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา สมุย ฯลฯ เพื่อสามารถเปิดการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาได้ และต้องมีมาตรการรองรับที่ชัดเจนหากจะมีการผิดพลาดอีก ทั้งนี้จะต้องเร่งกระจายการฉีดวัคซีนในจังหวัดท่องเที่ยวเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
“พลเอกประยุทธ์ยังกล้าบอกว่าไม่อยากโทษใคร ซึ่งเป็นการโยนความผิด ทั้งที่ความจริงคนที่ต้องรับผิดชอบในความล้มเหลวทั้งหมดคือตัวของพลเอกประยุทธ์เอง ทุกวันนี้ประชาชนไม่สามารถเชื่อถือรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ได้เลยไม่ว่าจะเรื่องวัคซีนว่าจะได้ฉีดไหม หรือจะได้ฉีดเมื่อไหร่ เมื่อไหร่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ สร้างความมั่นใจเพื่อเปิดธุรกิจและเปิดประเทศได้ แม้จะล้มเหลวขนาดนี้ พลเอกประยุทธ์ยังยืนยันกับวุฒิสภาว่าพลเอกประยุทธ์จะไม่ยุบสภาและจะอยู่ต่อจนครบเทอม ซึ่งก็ต้องดูว่าประชาชนจะทนได้ไปอีกนานขนาดไหน และพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยอมร่วมหัวจมท้าย ไปพร้อมกับพลเอกประยุทธ์หรือไม่ เพราะยิ่งอยู่นานประชาชนยิ่งจะไม่พอใจเพิ่มขึ้น ความนิยมของพรรคร่วมก็จะย่ำแย่ตามไปด้วย อีกทั้งพลเอกประยุทธ์ก็ไม่เคยให้เกียรติหรือให้ค่าพรรคร่วมรัฐบาลเลย ซึ่งคงต้องวัดใจกันต่อไป” นายจักรพล กล่าว
นายจักรพล ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะถูกนำเข้ารัฐสภาในไม่กี่วันนี้ โดยเรียกร้องให้ประชาชนสนใจในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ เพราะมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศและการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในอนาคต ถ้าไม่เร่งแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตยเช่น การปิดสวิตซ์ ส.ว. การยกเลิกยุทธศาสตร์ 20 ปี การคำนวณ ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ ฯลฯ จะไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่น และไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้ และที่สำคัญที่สุดคือ หากไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเทศไทยก็จะจมปลักกับผู้นำประเทศที่ขาดความรู้ความสามารถต่อไป จึงขอให้ประชาชนไทยเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพื่อทำให้ประเทศไทยแก้ปัญหาของประเทศและก้าวหน้าต่อไปได้.-สำนักข่าวไทย