กทม. วันนี้ ( 8 มิ.ย.) “ศรีสุวรรณ” ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน สอบ “แอปฯเป๋าตัง” เข้าข่ายละเมิดสิทธิ ขัดรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หวั่นเปิดช่องให้ธุรกิจเอกชนมาแสวงหาผลประโยชน์
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่าตามที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด ได้มีการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ของแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” โดยหลังจากอัปเดทแล้วแอปจะขออนุญาตผู้ใช้ในการแชร์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้กับหน่วยงานอื่น รวมถึงกับบริษัทในเครือของธนาคารกรุงไทย หากผู้ใช้ไม่ยินยอมก็จะไม่สามารถใช้งานแอปฯ เป๋าตัง แม้ธนาคารกรุงไทยจะออกมาแก้เกี้ยว ว่าผู้ใช้มีทางเลือกในการที่จะปฏิเสธคำขอในข้อ 1 และ 2 ได้ แต่สำหรับข้อ 3 นั้น ผู้ใช้จำเป็นต้องกดยินยอม เนื่องจากข้อดังกล่าวจำเป็นต่อการยืนยันตัวตนในการเข้าร่วมโครงการของรัฐ แต่ในแอปฯดังกล่าวก็ไม่ได้มีคำอธิบายว่าสามารถปฏิเสธข้อ 1 ข้อ 2 ได้แต่อย่างใด
นายศรีสุวรรณ ยังกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายการละเมิดสิทธิและเสรีภาพ ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 บัญญัติ และอาจละเมิดส่วนบุคคลของผู้ใช้แอปฯ ดังกล่าว อาจเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2560 ประกอบ พ.ร.บ.ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ.2540 เนื่องจากผู้ที่จำเป็นต้องใช้แอปฯดังกล่าวล้วนเป็นคนที่จำต้องขอความอนุเคราะห์จากภาครัฐในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงที่จะไม่ใช้แอปฯดังกล่าวได้
นายศรีสุวรรณ ยังกล่าวว่า การที่ธนาคารกรุงไทยไม่ได้รับการคุ้มครอง หรือมีข้อยกเว้นให้ตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดหน่วยงานและกิจการ ที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 พ.ศ.2563 เนื่องจากไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานรัฐ เป็นเพียงธนาคารเอกชนธรรมดาธนาคารหนึ่งที่รัฐมีหุ้นอยู่เท่านั้น การที่แอปฯดังกล่าวแจ้งขออนุญาตผู้ใช้ในการแชร์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้กับหน่วยงานอื่น รวมถึงกับบริษัทในเครือของธนาคารกรุงไทยด้วย อาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเล่ห์ฉลในการแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจของเอกชน ที่ใช้รัฐบาลเป็นเครื่องมือได้ ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯ จึงจะยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้แสวงหาข้อเท็จจริงและเสนอแนะต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อระงับธุรกรรมดังกล่าว .- สำนักข่าวไทย