ช็อกทั้งหมู่บ้าน! หนุ่มโผล่งานศพตัวเอง

พิษณุโลก 3 มิ.ย. – หนุ่มชาว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ หายจากบ้าน 3 วัน บังเอิญมีอุบัติเหตุรถชนคนตาย หน้าเละ แขนขาขาด พ่อไปดูศพเห็นรอยสักที่แขน คิดว่าเป็นลูกชาย ให้กู้ภัยนำร่างกลับมาจัดงานศพที่บ้าน จู่ๆ ลูกตัวจริงโผล่ ช็อกกันทั้งงาน


ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “สำรวย ยอดฟ้าอิน” โพสต์เรื่องราวฮือฮาที่ขำไม่ออก โดยระบุข้อความว่า “เกิดอุบัติเหตุช่วง 23.00 น. ของเมื่อคืนนี้ครับ รถสิบล้อชนคนตาย หัวเละ พอดีทางบ้านซาด มีคนหายเป็นคนขี้เหล้า ไม่ได้เข้าบ้านตั้งแต่เมื่อคืน ทางบ้านเลยคิดว่าศพที่โดนรถเหยียบอาจจะเป็นลูกชายตัวเองที่หายไป กับแขนมีรอยสักบ่งบอกรูปลักษณ์เป็นอย่างดี ทางเจ้าหน้าที่ก็เลยจัดส่งศพที่ว่ามาไว้ทางบ้านตามที่ญาติพี่น้องบอกมา … แต่เหตุการณ์กลับมาพลิกผัน คนที่ว่าหายกลับมาบ้านช่วงสายของมื้อเช้านี่เอง …”

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์ คือ นายสำรวย ยอดฟ้าอิน ชาวบ้านซาด ต.สระบัว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ เล่าให้ฟังว่า เกิดอุบัติเหตุรถชนคนเสียชีวิตที่ถนนสายแคนดง-สตึก บริเวณบ้านหนองหัวแคน ต.สระบัว สภาพศพศีรษะเละจนจำหน้าผู้เสียชีวิตไม่ได้ว่าเป็นใคร


กระทั่งมีญาติของนายสงัด สายวัน หรือ ล้าน อายุ 35 ปี ซึ่งหายออกจากบ้าน 3 วันแล้ว เข้าใจว่าเป็นศพของนายสงัด เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรียบร้อย จึงให้กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน แต่พอช่วงสาย นายสงัด ซึ่งทางญาติคิดว่าเสียชีวิตแล้ว ได้ขับรถจักรยานยนต์พ่วงรถเข็นกลับมาที่บ้าน สร้างความตกใจให้กับญาติและชาวบ้านที่มาร่วมงานศพ อีกทั้งงงว่า ถ้านายสงัดไม่ได้เสียชีวิต แล้วในโลงเป็นศพใคร

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 51 บ้านซาด ต.สระบัว ซึ่งเป็นบ้านของนายสงัด ที่ญาติเข้าใจว่าเป็นศพที่ถูกรถชนเสียชีวิต ก็พบว่ามีการตั้งเต็นท์จัดงานศพจริง ที่สำคัญพบรูปถ่ายของนายสงัด ที่เขียนระบุวันชาตะและมรณะไว้เรียบร้อย เพื่อใช้สำหรับตั้งหน้าโลงศพ และสถานที่สำหรับสวดศพที่ญาติได้นิมนต์พระมาสวดไปแล้ว ส่วนศพผู้เสียชีวิตในโลง มาทราบภายหลังว่าเป็นศพของนายวุฒิชัย พูนวงษ์ อายุ 35 ปี ชาวบ้านหนองหัวแคน ต.สระบัว

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 73 หมู่ 3 บ้านหนองหัวแคน ซึ่งญาติกำลังทำพิธีสวดอภิธรรมศพนายวุฒิชัย ก็พบว่ามีญาติและเพื่อนบ้านที่มาร่วมงาน ต่างพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ขณะที่นางประถม พูนวงษ์ พี่สาวคนตาย บอกว่า ปกติอยู่บ้านคนละหลังกับน้องชาย ได้ข่าวว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนคน แต่ไม่ได้ไปดูที่เกิดเหตุ เพราะไม่คิดว่าเป็นน้องชายตัวเอง กระทั่งมารู้ทีหลังว่าน้องของตนเองไม่ได้กลับบ้านเมื่อคืน และมีคนมาบอกว่า ศพที่ถูกรถชนไม่ใช่ศพของนายสงัด เพราะนายสงัด กลับมาบ้านแล้ว แต่น่าจะเป็นศพของน้องชายตนเองมากกว่า จึงเดินทางไปดูที่โรงพยาบาล ก็จำรอยแผลเป็นที่มือ ที่เท้า และเสื้อผ้าของน้องชายได้ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร แค่อยากให้คนที่ขับรถชนน้องชายเสียชีวิตมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ