กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – เจ้าหนี้เสียงข้างมากมีมติรับแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทยแล้ว พร้อมแต่งตั้ง 5 ผู้บริหาร ก่อนส่งศาลล้มละลายพิจารณาให้ความเห็นชอบแผน 28 พ.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมเจ้าหนี้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่เริ่มตั้งแต่ 09.00 น. วันนี้ (19 พ.ค.64) ซึ่งพิจารณาคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย ของผู้ทำแผนและเจ้าหนี้อื่น 14 ราย รวมทั้งสิ้น 15 ฉบับ ในเวลา 11.50 น. เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ประกาศว่า ที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติยอมให้มีการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย ฉบับลงวันที่ 2 มี.ค.64 ตามคำร้องขอแก้ไขแผน 3 ฉบับ ได้แก่ 1. คำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการของผู้ทำแผน (แผนที่แก้ไขฉบับที่ 4) 2. คำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการของธนาคารกรุงเทพ (แผนที่แก้ไขฉบับที่ 13) และ 3. คำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย (ชสอ.) (แผนที่แก้ไขฉบับที่ 15)
จากนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สอบถามผู้ทำแผนทั้ง 7 ราย เป็นรายบุคคล ว่าจะยอมรับแผนที่แก้ไขทั้ง 3 ฉบับ หรือไม่ ซึ่งผู้ทำแผนทั้ง 7 ราย ระบุว่า ยอมรับแผนที่แก้ไขทั้ง 3 ฉบับ โดยจะนำแผนแก้ไขดังกล่าวไปปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ฉบับลงวันที่ 2 มี.ค.64 ต่อไป โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ประกาศว่า ที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติเสียงข้างมากเป็นจำนวนหนี้ 116,960 ล้านบาท หรือคิดเป็น 91.56% ของจำนวนหนี้ทั้งหมด ยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย และแผนที่แก้ไข นอกจากนี้ ที่ประชุมเจ้าหนี้ยังลงมติคัดเลือกและแต่งตั้งคณะกรรมการเจ้าหนี้ จำนวนไม่น้อยกว่า 3 ราย แต่ไม่เกิน 7 ราย เพื่อทำหน้าที่ดูแลการทำหน้าที่ของผู้บริหารแผน โดยศาลล้มละลายกลางนัดฟังคำสั่งว่า ศาลฯ จะเห็นชอบด้วยแผนหรือไม่ รวมถึงมีคำสั่งแต่งตั้งผู้บริหารแผนภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย ในวันที่ 28 พ.ค.64 เวลา 09.00 น.
สำหรับคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทย ที่เสนอโดยชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย สรุปได้ 5 ประเด็น ได้แก่ 1. ให้เจ้าหนี้มีสิทธิแปลงหนี้เป็นทุนได้หลังปีที่ 7 กำหนดราคาแปลงหนี้เป็นทุนที่หุ้นละ 2.5452 บาท โดยให้ครอบคลุมเจ้าหนี้หุ้นกู้กลุ่มที่ 18-31 และเจ้าหนี้กลุ่มที่ 4 กลุ่มที่ 5 และกลุ่มที่ 6 เนื่องจากยังมีหนี้คงเหลือหลังปีที่ 7
- การแก้ไขแนวทางการปรับโครงสร้างทุน การลดทุน และเพิ่มทุน เนื่องจากมีการเพิ่มทางเลือกในการแปลงหนี้เป็นทุน
- การจัดการและหาประโยชน์จากทรัพย์สิน สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ ให้ผู้บริหารแผนศึกษาความเหมาะสม ความคุ้มค่า ความจำเป็น และความเป็นไปได้ในการแยกหน่วยธุรกิจ เช่น การขนส่งผู้โดยสารทางอากาศ ครัวการบิน และการให้บริการภาคพื้นดิน รวมทั้งต้องรายงานผลศึกษาต่อคณะกรรมการเจ้าหนี้ และคณะกรรมการกำกับดูแลสินเชื่อใหม่ ภายใน 1 ปี หรือระยะเวลาอื่นใดที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการเจ้าหนี้ และคณะกรรมการกำกับดูแลสินเชื่อใหม่ นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดให้ผู้บริหารแผนต้องจัดให้คณะกรรมการเจ้าหนี้เข้าถึงข้อมูล เนื้อหาในสัญญาเช่า/เช่าซื้อเครื่องบิน สัญญาซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ที่มีผลผูกพันต่อการบินไทย
- เสนอแต่งตั้งผู้บริหารแผน 3 ราย ได้แก่ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์, นายพรชัย ฐีระเวช และนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร เนื่องจากธุรกิจของการบินไทยเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ หากมีผู้บริหารแผนน้อยเกินไปจะทำให้การดูแลและบริหารไม่ครอบคลุม
และ 5. เพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการเจ้าหนี้ โดยให้ผู้บริหารแผนต้องชี้แจงแผนดำเนินงาน ความคืบหน้า ตลอดจนผลการดำเนินการขายทรัพย์สินรอง และเรื่องอื่นๆ ใดที่กำหนดให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการเจ้าหนี้ และคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย ที่เสนอโดยธนาคารกรุงเทพนั้น มีการขอแก้ไขในประเด็นผู้บริหารแผน โดยเสนอแต่งตั้งผู้บริหารแผนเพิ่มเติมอีก 2 ราย ได้แก่ 1. นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ และ 2. นายไกรสร บารมีอวยชัย รวมมีรายชื่อผู้บริหารแผนที่เสนอโดยเจ้าหนี้ 5 ราย คือ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์, นายพรชัย ฐีระเวช, นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร, นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ และนายไกรสร บารมีอวยชัย. – สำนักข่าวไทย