สว.สำรอง บุก กกต. ร้องให้ชี้แจง “เลขาฯ แสวง” ละเว้นหน้าที่

กกต. 2 เม.ย.- สว.สำรอง บุก กกต. ยื่นจดหมายฉบับที่ 7-8 เรียกร้องให้ชี้แจง “เลขาฯ แสวง” ละเว้นหน้าที่ เปิดหีบบัตรเลือก สว.


กลุ่ม สว.สำรอง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว เข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกฉบับที่ 7 และ 8 ถึงนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. และ กกต. เพื่อขอทราบผลการดำเนินการกับนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และขอให้มีการเปิดหีบบัตรลงคะแนนเพื่อตรวจสอบความสุจริต

โดยตามหนังสือเปิดผนึกฉบับที่ 7 ได้อ้างถึง สว.สำรอง นำเรียนหารือและขอทราบผลการดำเนินงานจาก กกต. จำนวน 4 ประเด็นดังนี้ 1.การดำเนินการพิจารณาข้อบกพร่องที่เป็นความผิดทางวินัยของนายแสวง จะดำเนินการอย่างไร และจะมีผลประการใด 2.การพิจารณาดำเนินการทางวินัยของคณะกรรมการไต่สวนคณะที่ 19 ได้ดำเนินการแล้วหรือไม่ อยู่ในขั้นตอนใด และมีผลเป็นอย่างไร 3.ตามที่มีการขอทราบผลการประเมินผลการปฏิบัติงานของนายนายแสวง ในรอบการประเมินที่ผ่านมาล่าสุดผลเป็นอย่างไร เพราะยังไม่มีคำตอบจากทาง กกต. และ 4.เพื่อให้การสืบสวนไต่สวนเกี่ยวกับการร้องคัดค้านการเลือก สว.2567


ที่ผ่านมา มีความ ชัดเจนแล้วว่ามีการใช้โพย (ใบสั่ง) ประกอบในการลงคะแนนในวันเลือกรอบประเทศ ดังนั้นการที่จะทำให้การสืบสวนไต่สวนเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม รวมทั้งดำเนินการไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จึงขอยืนยันให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ของนายแสวง ในฐานะเลขาธิการ กกต.ไว้เป็นการชั่วคราว

อีกทั้งตามหนังสือเปิดผนึกฉบับที่ 8 ได้อ้างถึง สว.สำรอง นำเรียนหารือและขอทราบผลการดำเนินงานจาก กกต. จำนวน 3 ประเด็นดังนี้ 1.ขอให้นำสำนวนการสืบสวนไต่สวนที่เป็นเครือข่ายเกี่ยวกับการจัดทำโพยการเลือก สว.รวมเป็นสำนวนเดียวกัน รวมทั้งขอเสนอให้นำสำนวนการร้องคัดค้านที่ พล.ต.ท.คำรบ กับคณะ รวม 112 คน ได้ร้องเรียนไว้ที่คณะสืบสวนไต่สวนที่ 18 ซึ่งมีการสืบสวนสอบสวนผู้เกี่ยวข้องไว้ส่วนหนึ่งแล้ว เป็นสำนวนหลักในการที่จะพิจารณาดำเนินการ แล้วสืบสวนสอบสวนพยานอื่นที่เกี่ยวข้องประกอบเพิ่มเติม โดยเฉพาะข้อมูลที่มีสาระสำคัญจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)

2.ขอให้มีการเปิดหีบบัตรลงคะแนนที่มีการเก็บไว้ที่ กกต. จำนวน 40 หีบ ที่ใช้ในวันเลือกรอบประเทศ พร้อมทั้งเปิดภาพที่บันทึกในกล้องซีซีทีวี ให้สาธารณะชน สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปได้ตรวจพิสูจน์และนำผลข้อมูลการเลือก พร้อมทั้งบัตรลงคะแนนมาเปรียบเทียบกับโพยจัดตั้ง ที่ได้มีการยึดมาได้ทั้งหมด ว่ามีหมายเลขตรงกันอย่างชัดเจน เพื่อแสดงให้เห็นว่าหมายเลขในโพยจัดตั้งทั้งหมดได้คะแนนมาโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม 3.คณะสว.สำรอง ยังคงยืนยันขอให้ทางสำนักงาน กกต. และกกต.ปรับปรุงฝ่ายประชาสัมพันธ์ และฝ่ายสื่อสารองค์กร เพื่อให้มีการสื่อสารกับผู้ที่มาติดต่อและสังคมภายนอกและประชาชนทั่วไปให้กว้างขวางมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน


ด้าน พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า วันนี้เราจะมาทวงถามการดำเนินการการยื่นจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 1 -6 มีความคืบหน้าอย่างไร รวมถึงการให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายแสวง ผลการดำเนินงานพิจารณาตรงนี้อยู่ในขั้นใด รวมถึงขอทราบผลการประเมินว่าการทำงานที่ผ่านมาของนายแสวงเป็นอย่างไร อีกทั้งยังไม่ได้รับคำตอบใดจากทาง กกต. รวมถึงการสืบสวนถึงแม้ว่าจะมีทางดีเอสไอมาร่วมสืบสวนด้วยแต่ทิศทางในการดำเนินการในเรื่องของสำนวนต่าง ๆ นั้นยังไม่มีความชัดเจนที่จะเป็นการเปิดเผยจากทาง กกต.

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่า ข้อสำคัญคือเรื่องการเปิดหีบบัตรลงคะแนนที่มีการเก็บไว้จำนวน 40 หีบ ให้มีการตรวจสอบแต่ผ่านมาระยะเวลา 9 เดือนแล้วยังมีการดำเนินการแต่อย่างใด เราจะมีการออกมาเรียกร้องเช่นนี้อยู่อีกเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีการเปิดหีบตรวจสอบ อีกทั้งที่ผ่านมาเราได้ใช้วิธีส่งจดหมายเปิดผนึกและบางครั้งก็เป็นการส่งจดหมายปิดผนึก ถึงคณะกรรมการ กกต. เพราะยังไม่มีการติดต่อหรือพูดคุยจากทาง กกต.เลย ย้ำว่าหากจะมีการตอบรับ ครั้งหน้าเราจะมาเรียกร้องอีก

เมื่อถามว่าหลังจากนี้หากยังไม่มีความคืบหน้า จะมีการฟ้องร้องการทำงานของกกต.โดยตรงหรือไม่ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า เราได้มีการฟ้องร้องแล้ว เมื่อช่วงที่ผ่านมาคณะ สว.สำรอง ก็ได้ไปฟ้องร้องที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) โดยได้ฟ้องนายแสวงโดยตรง เพราะทำหน้าที่หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติหน้าที่ที่ควรจะต้องปฏิบัติตามมาตรา 32 และพ่วงด้วยมาตรา 157 อีกทั้งคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ มีการนำเรื่องที่ตนได้ร้องเรียนไปสืบสวนและไต่สวนเพิ่มเติม และคงจะมีการเรียกตนเข้าไปชี้แจง

เมื่อถามถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ รับคำร้องของ สว. ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานกรรมการคดีพิเศษ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะรองประธานกรรมการคดีพิเศษ สิ้นสุดลงหรือไม่พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบคำร้องของ สว.แล้ว จึงได้เกิดข้อสงสัยว่า สว.ใช้สถานะอะไรในการยื่นร้อง แต่มาตรา 185 ของรัฐธรรมนูญ กำหนดไว้ชัดเจนว่า สส. และ สว. ต้องไม่ใช้สถานะของตนเอง แทรกแซงฝ่ายบริหารหรือฝ่ายราชการ เพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือผู้อื่นดังนั้น การยื่นร้องครั้งนี้ อาจเข้าข่ายการกระทำผิดตามมาตรา 111 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจนำไปสู่ การขาดคุณสมบัติการเป็น สว.ทันที

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่า กรณีการเปิดหีบบัตรลงคะแนน เราได้มีการเน้นย้ำมาตลอด แต่ยังไม่เคยมีคำตอบใด ไม่ว่าจะหีบบัตรลงคะแนนหรือกล้องซีซีทีวี ทางนายแสวงจะต้องเก็บหลักฐานไว้ เพราะเป็นหน้าที่ของผู้อำนวยการเลือก สว.ซึ่งต้องดำเนินการตามมาตรา 30 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา และการที่เราได้ขอให้เรียกร้องเปิดเผยข้อมูลบัตรลงคะแนนนั้น ไม่ใช่การกระทำเกินหน้าที่ของนายแสวง รวมถึงตนได้ทราบอีกว่าทางคณะกรรมการเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่ร่วมกับ กกต.ก็มีแนวคิดที่จะให้ทาง กกต.เปิดหีบตรวจสอบเช่นกัน หลังจากได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นพยานบุคคลไว้แล้ว เชื่อว่าสุดท้ายจะมีการเปิดหีบบัตรลงคะแนนเพื่อตรวจสอบ โดยใช้เวลาหนึ่งวันก็เพียงพอที่จะตรวจสอบและเรียนเชิญสื่อมวลชนมาตรวจสอบด้วยเช่นกัน

เมื่อถามอีกว่าได้มีการยื่นคำร้องมา 9 เดือนแล้วที่จะขอเข้าพบ กกต.มีจุดประสงค์ได้หรือไม่ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า เราอยากจะสอบถามความจริง จากทางเราเองและสื่อมวลชน แต่ไม่เคยได้รับคำตอบกลับมา มีเพียงคำแค่อยู่ในการดำเนินการ นับถอยหลังไม่นานก็ได้รับจดหมายตอบกลับว่าเรื่องของเราได้รับการยกคำร้อง ซึ่งตรงนี้เราอยากได้คำอธิบาย

เมื่อถามอีกว่ากรณีประธาน กกต.ชี้แจ้งว่าจะให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ของนายแสวงไม่ได้ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า มีกรณีของ พ.ต.อ.มนัส นครศรี ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดสมุทรปราการ ได้ขอให้พิจารณาตั้งคณะกรรมการคดีวินัยนายแสวง ซึ่งการที่จะกล่าวหาได้ต้องมีมูลและหลักฐาน หลังจากนั้นตามมาตรา 53 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่มีการระบุไว้ว่าหากพนักงานผู้ใดมีความไม่สุจริตและเที่ยงธรรม และหากมีข้อสงสัยใดให้สามารถตั้งกรรมการคดีวินัยทันที เพราะฉะนั้น กกต.จะต้องมีการดำเนินการตามข้อกล่าวหา และมีการระบุไว้ว่าหากมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ก็ต้องมีการพักงานบุคคลที่โดนกล่าวหานั้นด้วย ส่วนจะมีความผิดหรือไม่ก็อยู่ที่คณะกรรมการไต่สวน .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี”

กทม. 9 ส.ค. – “ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” เป็นโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี” ชี้กองทัพพร้อมประสานข้อมูลเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตั้ง น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นโฆษกจิตอาสา ศูนย์บริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีความไม่เหมาะสมเรื่องของข้อมูล และความน่าเชื่อถือ ว่า น.ส.ปนัดดา เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และมีความสนใจในเรื่องบ้านเมือง ซึ่งข้อมูลด้านการทหารอาจจะรู้ไม่เยอะเท่ากับเจ้าหน้าที่ทหาร แต่มีความตั้งใจ อีกทั้งการเข้ามารับตำแหน่งก็เป็นการเสนอจากผู้บัญชาการเหล่าทัพ ซึ่งต้นคิดว่าเรื่องของการได้ข้อมูล เมื่อทางทหารสนับสนุนก็จะสามารถทำงานได้ดี นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า พลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกลาโหมกัมพูชาเป็นผู้หญิง เราไม่อยากให้รู้สึกเหมือนว่าใช้โฆษกทหารที่เป็นผู้ชายไปโต้แย้ง เราอาจจะเสียเปรียบกว่า ซึ่งเห็นว่า น.ส.ปนัดดา มีความเหมาะสมอยู่แล้ว ส่วนเรื่องข้อมูลก็ให้ประสานกับกองทัพอย่างเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตรงนี้ตนคิดว่าสมน้ำสมเนื้อ เมื่อถามย้ำว่า ข้อมูลที่ น.ส.ปนัดดา จะพูดออกมา เป็นการกลั่นกรองมาจากทางกองทัพใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ประมาณนั้น […]

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 9 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงาาน 10-15 ส.ค. ไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10 – 15 ส.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]