ชุมพร 6 พ.ค.- สองสามีภรรยาออกเรือประมงขนาดเล็ก เจอพายุฝนพัดกระหน่ำจนเรือล่ม ลอยคอพยุงพาร่างพาเมียขึ้นชายหาดสุดท้ายไม่รอด
เช้าวันนี้ ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุเรือประมงขนาดเล็กเจอพายุฝนพัดกระหน่ำจนล่ม มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ ถูกนำมาไว้บนฝั่ง บริเวณริมหาดหมู่ 7 ตำบลนาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณแหลมคอกวางซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด พบผู้เสียชีวิตชื่อ น.ส.จุรีรัตน์ อ่ำศรี อายุ 38 ปี มีนายอุดม ธนบัตร อายุ 43 ปี สามี นั่งกอดร่ำไห้ด้วยความเศร้าโศก
นายอุดม สามีผู้ตายให้การว่าเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 5 พฤษภาคม ตนพร้อมภรรยานำเรือไฟเบอร์ติดเครื่องยนต์แบบหางยาว ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ได้เพียง 3 วัน ออกไปหาตกหมึกและตกปลา ห่างฝั่งประมาณ130 เมตร จนกระทั่งเวลา 03.30 น.วันนี้ เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักตามด้วยลมพายุพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง ตนเองได้พยายามบังคับเรือหันหัวสู้คลื่นลมสูงกว่า 2 เมตร แต่ภรรยาซึ่งไม่ค่อยได้ออกมาทะเลบ่อยเกิดความกลัวร้องไห้ลั่นเรือ ด้วยความรักและสงสารภรรยา จึงถอนสมอจะเข้าฝั่ง แต่ถูกคลื่นซัดจนล่มจมลงท้องทะเลเสียก่อน
ตนเองลอยพยุงตัวอยู่ในน้ำโดยอีกมือจับเสื้อภรรยาเอาไว้ขณะที่คลื่นได้ซัดกระหน่ำตลอดเวลา ขอความช่วยเหลือจากเรือลำหนึ่ง แต่ไม่ได้ช่วยอะไร อาจเพราะเขาต้องสู้ลมพายุอยู่ ตนเองเลยตัดสินใจฮึดสุดท้ายลอยพยุงพาภรรยาเข้าฝั่งให้ได้ จนมาถึงฝั่งภรรยาเกิดอาการสะอึกและอาเจียนออกมาเป็นเลือดแล้วก็แน่นิ่งไป ด้วยความตกใจก็พยายามปั๊มหัวใจอยู่สักพักบนโขดหิน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ภรรยาหมดลมหายใจไปแล้ว จึงได้อุ้มร่างภรรยาเดินป่ายปีนโขดหินลัดเลาะมาที่แหลมคอกวาง แล้วขอให้ชาวบ้านได้แจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
จากการชันสูตรศพของแพทย์พบกระดูกบริเวณก้านคอซีกขวาหัก ส่วนอวัยวะอื่นๆ ไม่พบร่องรอยบาดแผลแต่อย่างใด และจะมีการนำศพผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป.-สำนักข่าวไทย