กรุงเทพฯ 26 เม.ย.-ภาคธุรกิจท่องเที่ยว เอกชน เตรียมแผนเสนอนายกรัฐมนตรี 28 เม.ย.นี้ อนุญาตให้เอกชนมีส่วนร่วมนำเข้าวัคซีน เดินหน้าโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ สทท. กล่าวถึงแนวทางที่เตรียมเสนอนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังนายกรัฐมนตรี ได้เชิญภาคเอกชน รวมถึงด้านท่องเที่ยว เพื่อเร่งแก้ไขสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงโดยเร็ว และแนวทางการจัดหาวัคซีนของภาคเอกชน หลังแสดงความประสงค์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายสู่บุคลากรในภาคอุตสาหกรรมและภาคท่องเที่ยวนั้น ในส่วนของภาคท่องเที่ยวเอกชน นั้น สทท. เตรียมเสนอ 3 ข้อ คือ
1.สนับสนุนการเดินหน้าเปิดประเทศ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งกำหนดไว้ 1 ก.ค.นี้ ไทม์ไลน์อาจเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์แพร่ระบาดในปัจจุบัน แต่ต้องทำโมเดลนี้ ให้เกิดขึ้น ไม่ใช่การดันทุรังเปิด แต่เนื่องจากมีการจัดทำแผนอย่างเป็นระบบไว้แล้วอย่างชัดเจน และค่อยๆ ขยายต่อใน 5 จังหวัดท่องเที่ยว และมีแผนที่ชัดเจนในจังหวัดอื่นๆ ต่อไปด้วย การควบคุมการแพร่ระบาดและการฉีดวัคซีน ต้องทำควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ
2.ภาคเอกชนพร้อมแบ่งเบาภาระรัฐในการจัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม และภาคท่องเที่ยว โรงแรม โดยจะออกค่าใช้จ่ายเอง ไม่เกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดิน ขอเพียงรัฐบาลอนุญาตให้ รพ.เอกชน นำเข้าวัคซีนได้ แต่ต้องมีกลไกลในการควบคุมราคา ถือเป็นวัคซีนทางเลือกให้ประชาชนได้เข้าถึงวัคซีนไวขึ้น ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับการท่องเที่ยวไทย
3.อยากให้รัฐประกาศ ซิงเกิลแมสเสจ คำสั่งเดียว ไม่ใช่แต่ละจังหวัดประกาศไปคนละทิศทาง ทำให้การท่องเที่ยวสับสน เช่น เดินทางผ่านจังหวัดนี้ต้องกักตัว หรือตรวจโควิด-19 แต่อีกจังหวัดไม่ต้องกักตัว ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้สถานการณ์วิกฤติโควิด-19 เช่นเดียวกัน โดยสทท.จะช่วยประชาสัมพันธ์ผ่านการท่องเที่ยวแต่ละจังหวัดให้เกิดความเข้าใจ จะทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจและการควบคุมการระบาด เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
พร้อมขอบคุณรัฐบาลที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้เสนอความคิดเห็น ในวันที่ 28 เม.ย.ที่จะถึงนี้ และหวังว่าแนวทางที่เสนอไปจะถูกนำไปใช้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให่กับการท่องเที่ยวไทยต่อไป .-สำนักข่าวไทย