นิวยอร์ก 26 เม.ย. – ชายอเมริกันเชื้อสายเอเชีย วัย 61 ปี กลายเป็นเหยื่ออาชญากรรมจากความเกลียดชังคนล่าสุดในสหรัฐ ถูกคนร้ายเตะและกระทืบหลายครั้ง ขณะนี้ตำรวจกำลังขอเบาะแสเพื่อจับกุม
ตำรวจนครนิวยอร์กเผยภาพกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา ชายคนหนึ่งกำลังกระทึบศีรษะชายเชื้อสายเอเชียอายุ 61 ปี หลายครั้งอย่างโหดร้าย เพื่อขอให้ประชาชนแจ้งเบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุ
จากการสืบสวนเบื้องต้นโดยหน่วยต่อต้านอาชญากรรมจากความเกลียดชัง พบว่าเหตุเกิดในย่านอีสต์ฮาเล็ม ที่คนร้ายเข้าทำร้ายชายสูงอายุคนนี้จากทางด้านหลังจนล้มลง จากนั้นจึงเตะและกระทืบหลายครั้ง ทำให้บาดเจ็บสาหัสต้องถูกส่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ในนครนิวยอร์กก็เพิ่งเกิดเหตุคล้ายๆ กัน ใกล้ย่านไทม์สแควร์ ผู้บาดเจ็บเป็นสตรีสูงอายุเชื้อสายฟิลิปปินส์ คนร้ายเป็นชายผิวดำอายุ 38 ปี เตะผู้หญิงคนนี้จนล้มลงแล้วเตะซ้ำอีกหลายครั้ง ขณะที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นเหตุการณ์กลับนิ่งเฉย ขณะนี้คนร้ายถูกจับกุมตัวแล้วในข้อหาทำร้ายร่างกายสองกระทง
ทั้งสองเหตุการณ์เป็นส่วนหนึ่งของกระแสเกลียดชังชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียในสหรัฐ ซึ่งในช่วงประมาณ 1 ปีมานี้ เกิดอาชญากรรมจากความเกลียดชังต่อชาวเอเชียหลายพันครั้งทั่วสหรัฐ เฉพาะในเมืองใหญ่ 16 เมืองทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเกือบ 150% เนื่องจากการกล่าวโทษว่าเป็นตัวการของโรคโควิด-19 ระบาด โดยสาเหตุหลักนั้นถูกโยงเข้ากับนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี ซึ่งขณะอยู่ในตำแหน่งได้กล่าวโทษว่าจีนเป็นสาเหตุของการะบาด เช่น การเรียกไวรัส ว่าเป็น “ไวรัสจีน”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วุฒิสภาสหรัฐเพิ่งลงมติรับรองร่างกฎหมายต่อต้านความรุนแรงต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย.- สำนักข่าวไทย