ทูตไทยขอบคุณอิสราเอลช่วยปล่อย 5 ตัวประกันชาวไทย

31 ม.ค. – เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล กล่าวขอบคุณรัฐบาลอิสราเอล ในการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทย 5 คน กลับบ้าน หลังกลุ่มฮามาสปล่อยตัว พร้อมกับตัวประกันชาวอิสราเอล 3 คน


นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล แถลงจากศูนย์การแพทย์ชามีร์ ในเมืองเบียร์ ยาคอฟ ของอิสราเอล ที่ซึ่งตัวประกันเข้าตรวจสภาพร่างกาย ว่าประเทศไทยรอต้อนรับตัวประกันชาวไทย 5 คน กลับบ้าน หลังได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มฮามาสเมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) และขอบคุณรัฐบาลอิสราเอลสำหรับบทบาทในการส่งตัวประกันกลับประเทศ รวมทั้งขอบคุณโรงพยาบาลที่ดูแลคนไทยเป็นอย่างดี

นางสาวพรรณนภา กล่าวว่า พลเมืองไทยในประเทศไทย รัฐบาลทั้งหมด และทุกคน ตั้งตารอต้อนรับตัวประกันทั้ง 5 คน ขอบคุณทุกฝ่ายในอิสราเอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาลที่ดูแลคนไทยเป็นอย่างดี เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล กล่าวด้วยว่า ตัวประกันชาวไทยได้พูดคุยกับครอบครัวในประเทศไทยแล้ว ตัวประกันบางคนเผชิญชะตากรรมเลวร้าย เพราะไม่เห็นแสงสว่างเลยตลอด 482 วัน ระหว่างถูกควบคุมตัว และบอกว่าเจ้าหน้าที่กำลังทำงานเกี่ยวกับการกำหนดเดินทางกลับให้พวกเขา เนื่องจากผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทาง


ก่อนหน้านี้อิสราเอลเผยชื่อตัวประกันชาวไทยทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา, นายเสถียร สุวรรณคำ, นายวัชระ ศรีอ้วน, นายบรรณวัชร แซ่ท้าว และนายสุรศักดิ์ ลำเนา ส่วนอีกคนที่ยังอยู่ในการควบคุมของฮามาส คือ นายณัฐพงษ์ ปินตา โดยตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวทั้งหมด ถูกส่งตัวให้เจ้าหน้าที่กาชาดสากล ก่อนได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทย ที่จุดต้อนรับในฐานทัพแห่งหนึ่งใกล้ฉนวนกาซา

ทั้งนี้ แรงงานไทยที่เข้าไปทำงานภาคการเกษตรในอิสราเอล 39 คน เสียชีวิตช่วงที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีชุมชนเกษตรหลายแห่งทางใต้ของอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 และอีก 31 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน อย่างไรก็ดี ตัวประกันชาวไทยส่วนใหญ่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ทำให้เหลือตัวประกันชาวไทยในฉนวนกาซาอีกเพียง 8 คน ในจำนวนนี้ 2 คน คือ สนธยา อัครศรี และนายสุทธิศักดิ์ รินทลักษ์ กระทรวงการต่างประเทศของไทยแจ้งว่าน่าจะเสียชีวิตแล้วตั้งแต่ช่วงต้นของเหตุการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ส่วนนายณัฐพงษ์ ปินตา แรงงานไทยคนสุดท้ายที่ยังไม่ถูกปล่อยตัวนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตแล้ว และต้องรอติดตามว่าจะได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มฮามาสในการปล่อยตัวรอบต่อไปที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์นี้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย