กรุงเทพฯ 22 เม.ย. – ศูนย์เฝ้าระวังโควิดของกระทรวงเกษตรฯ สั่งปิดร้านกาแฟมวลชนซึ่งพนักงานติดโควิด-19 พร้อมสั่งให้บุคลากรของกระทรวงที่เข้าไปใช้บริการกักตัว 14 วันเพื่อสังเกตอาการ
นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิค-19 กล่าวกรณีที่มีพนักงานพนักงานของร้านกาแฟมวลชนที่ตั้งอยู่ทางประตูทางออกด้านถนนวิสุทธิกษัตริย์ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 รายว่า จากการตรวจสอบพบว่า พนักงานที่ติดเชื้อเข้ามาทำงานวันที่ 16 เม.ย. แล้วมีอาการช่วงเย็น โดยไปเข้ารับการตรวจวันเสาร์และรู้ผลวันอาทิตย์ จากนั้นทางร้านปิดทำการวันจันทร์ที่ 19 พร้อมฉีดพ่นฆ่าเชื้อและให้พนักงานในร้านกาแฟไปตรวจทุกคน ซึ่งผลการตรวจพนักงานทั้งหมดแล้วยืนยันว่า ไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ทางร้านจึงให้พนักงานทุกคนกักตัว 14 วัน
ต่อมาร้านกาแฟเปิดให้บริการวันที่ 21 เม.ย ซึ่งเปิดบริการโดบใช้พนักงานชุดใหม่ทั้งหมด แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงได้สั่งการให้ร้านกาแฟปิดทำการไปจนถึงวันที่ 2 พ.ค. และให้เปิดทำการอีกครั้งวันที่ 3 พ.ค.
นายทองเปลวกล่าวต่อว่า ศูนย์เฝ้าระวังโควิด-19 ของกระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบว่า บุคลากรสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงฯ คนใดไปใช้บริการที่ร้านกาแฟในวันศุกร์ที่ 16 เม.ย. บ้าง และสั่งการให้ปฏิบัติราชการจากที่บ้าน พร้อมกับ 14 วัน แล้ว โดยให้สังเกตอาการ หากไม่สบายให้ไปพบแพทย์ ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ มีมาตรการป้องกันการระบาดอย่างเข้มข้น ตลอดจนสั่งการให้บุคลากรปฏิบัติราชการจากที่บ้านร้อยละ 80 ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. จนถึงวันที่ 30 เม.ย. สอดคล้องกับมาตรการของรัฐบาล โดยไม่ให้มีผลกระทบต่อการบริการประชาชน. – สำนักข่าวไทย