ย่างกุ้ง 21 เม.ย. – ทอม แอนดริวส์ ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ประจำเมียนมา กล่าววันนี้ว่า การใช้กำลังของกองทัพเมียนมาในการสลายการชุมนุมและกวาดล้างกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารส่งผลให้เกิดคนพลัดถิ่นเกือบ 250,000 คน
นายแอนดริวส์ ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์ของเขาว่า เป็นเรื่องน่าตกใจที่ได้ทราบว่า การใช้กำลังของกองทัพเมียนมาทำให้ประชาชนชาวเมียนมาต้องพลัดถึงไปแล้วเกือบ 250,000 คน เขากล่าวว่า ทั่วโลกจะต้องดำเนินการในทันทีเพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นภัยพิบัติด้านมนุษยธรรมนี้
ด้านฟรีเบอร์ม่าเรนเจอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของชาวคริสเตียน ประมาณการเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า มีประชาชนพลัดถิ่นอย่างน้อย 24,000 ราย ในรัฐกะเหรี่ยงทางภาคเหนือของประเทศ ในช่วงที่กองทัพใช้ปฏิบัติการโจตีทั้งภาคพื่นดินและทางอากาศในรัฐดังกล่าวเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
โฆษกสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ เคเอ็นยู กล่าวว่า ชาวกระเหรี่ยงมากกว่า 200 คน ข้ามชายแดนเข้าไปยังประเทศไทย และมีอีกหลายพันคนที่ต้องพลัดถิ่นฐานเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในป่าใกล้ ๆ หมู่บ้านที่พวกเขาอยู่ กองทัพเมียนมา เพิ่มการใช้อาวุธรุนแรงในการสลายการชุมนุมที่ต่อต้านการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ทำให้นางอองซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนพ้นจากตำแหน่งและถูกจับกุม กลุ่มเฝ้าสังเกตุการณ์ในเมียนมาระบุว่า ประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 738 ราย และอีก 3,300 คน ถูกคุมขังในฐานะนักโทษการเมือง.-สำนักข่าวไทย