ภูเก็ต 20 เม.ย. – จ.ภูเก็ต เริ่มใช้ยาแรงคัดกรองผู้เดินทางมาจากพื้นที่สีแดง 17 จังหวัด ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือมีใบรับรองตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 เริ่มบังคับใช้พรุ่งนี้
ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต เมื่อวานนี้ (19 เม.ย.) ได้มีการขอความเห็นชอบมาตรการสกัดกั้นโควิด-19 โดยเฉพาะมาตรการคัดกรองผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 17 จังหวัด ซึ่งจะอนุญาตให้ผู้ที่มาจากพื้นที่สีแดงทุกช่องทาง ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือมีเอกสารแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมง และไม่พบเชื้อโควิด-19 หากไม่มีทั้ง 2 อย่าง จะต้องผ่านการตรวจหาเชื้อแบบ Antigen Rapid Test ที่ด่านขาเข้า จ.ภูเก็ต เช่น สนามบินภูเก็ต หรือด่านท่าฉัตรไชย โดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 300 บาท ใช้เวลารอผลประมาณ 15 นาที หากผลตรวจไม่พบเชื้อก็สามารถเดินทางเข้าภูเก็ตได้ แต่หากพบเชื้อจะถูกส่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล นอกจากนี้จะต้องดาวน์โหลดแอปฯ “หมอชนะ” และยินยอมเปิด Share Location ตลอดเวลา รวมถึงลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ gophuget.com โดยมาตรการดังกล่าวจะยกเว้นผู้ทำหน้าที่ขนส่งสินค้าโดยไม่แวะค้างคืนในจังหวัด ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 21-30 เมษายน 2564
ด้านว่าที่ ร.ต.วิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่เดินทางเข้ามาทางอากาศ ไม่ว่าจะมาจากพื้นที่สีแดง หรือพื้นที่อื่นๆ หากไม่ได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็ม หรือไม่มีใบรับรองการตรวจโควิด-19 จะต้องตรวจ Antigen Rapid Test ทุกคน เนื่องจากได้เดินทางผ่านพื้นที่สีแดง ส่วนผู้ที่เดินทางมาทางรถยนต์ ผ่านด่านตรวจท่าฉัตรไชย จะแยกตรวจเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดง 17 จังหวัดเท่านั้น
สุราษฎร์ฯ ดีเดย์ปรับคนไม่ใส่หน้ากาก 20,000 บาท
ส่วนที่ จ.สุราษฎร์ธานี ล่าสุดนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ลงนามในหนังสือด่วนที่สุดเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทวีคูณ รวมถึงกระจายตัวไปในทุกพื้นที่อย่างรวดเร็ว แต่กลับมีประชาชนส่วนใหญ่ละเลยไม่สวมหน้ากากป้องกัน จึงมีคำสั่งให้ประชาชนในจังหวัดฯ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง ตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถานหรือสถานที่พำนัก ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันนี้ (20 เม.ย.) เป็นต้นไป
ร้อยเอ็ดสั่งห้ามจัดกิจกรรมประเพณีบุญบั้งไฟ
ด้าน จ.ร้อยเอ็ด ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ มีมติให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ อาทิ สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ เป็นการชั่วคราวไม่น้อยกว่า 14 วัน นับแต่วันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ หลักใหญ่ๆ ยังห้ามการจัดกิจกรรมทุกประเภท รวมทั้งการจัดงานประเพณีต่างๆ ที่มีการรวมกลุ่มมากกว่า 50 คน แม้แต่การจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ซึ่งแม้จะยื่นเรื่องขออนุญาตแล้วก็ให้ยกเลิกทั้งหมด นอกจากนี้ ยังให้งดจัดกิจกรรมทางสังคมในลักษณะที่เป็นงานสังสรรค์ งานเลี้ยง หรืองานรื่นเริง แต่หากจัดต้องเป็นไปตามข้อกำหนด คือ ไม่เกิน 50 คน และต้องมีมาตรการป้องกันโรคที่รัดกุม โดยให้นายอำเภอตรวจสอบและพิจารณาอนุญาตให้เป็นไปตามข้อกำหนด. – สำนักข่าวไทย